มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
Rajabhat Rajanagarindra | |
ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย | |
ชื่อเดิม | สถาบันราชภัฏราชนครินทร์ |
---|---|
ชื่อย่อ | มรร. / RRU |
คติพจน์ | สิกฺเขยฺย สิกฺขิตพฺพานิ พึงศึกษา ในสิ่งที่ควรศึกษา |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 |
สังกัดการศึกษา | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
สังกัดวิชาการ |
|
งบประมาณ | 423,876,400 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
นายกสภาฯ | รองศาสตราจารย์ พินิติ รตะนานุกูล |
อธิการบดี | รองศาสตราจารย์ ดวงพร ภู่ผะกา |
อาจารย์ | 294 คน (พ.ศ. 2565)[2] |
บุคลากรทั้งหมด | 644 คน (พ.ศ. 2565)[2] |
ผู้ศึกษา | 4,500 คน (พ.ศ. 2565)[2] |
ที่ตั้ง |
|
วิทยาเขต | วิทยาเขต |
สี | เขียว-เหลือง |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย |
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (อังกฤษ: Rajabhat Rajanagarindra University) ตั้งอยู่ที่ถนน 442 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา บนเนื้อที่ 43 ไร่เศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท มีทั้งหมด 5 คณะ ประกอบด้วย คณะครุศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
ประวัติ
[แก้]โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมชาย
[แก้]มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ สถานที่แห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งของโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมชาย ต่อมาเมื่อโรงเรียนฝึกหัดครูกสิก���รมชายย้ายไปตั้งใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทางราชการได้ปรับปรุงโดยการขยายสถานที่เดิมให้กว้างขวางขึ้น โดยขอใช้ที่ดินจากทางการทหารและจัดซื้อเพิ่มเติม จัดสร้างหอนอนและเรือนพักครูแล้วย้ายนักเรียนสตรีแผนกฝึกหัดครูซึ่งเรียนรวมอยู่กับนักเรียนสตรีประจำจังหวัดฉะเชิงเทราดัดดรุณี มาเรียนแทนในปี พ.ศ. 2483 โดยใช้ชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนฝึกหัดครูประกาศ��ียบัตรจังหวัด เปิดสอนหลักสูตรครูประกาศนียบัตรจังหวัด (ครู ว.) จึงถือได้ว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ได้ถือกำเนิดในปี พ.ศ. 2483 จากนั้นก็ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงมาโดยลำดับ กล่าวคือ
พ.ศ. 2485 ได้เปิดสอนหลักสูตรครูประชาบาล (ป.ป.) และเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนสตรีฝึกหัดครูฉะเชิงเทรา ต่อมาได้ตัดหลักสูตรครูประชาบาล และหลักสูตรครูประกาศนียบัตรจังหวัดออกปีละชั้นจนหมดในปี พ.ศ. 2491 และ พ.ศ. 2495 ตามลำดับ
พ.ศ. 2493 เปิดสอนหลักสูตรครูมูล และในปี พ.ศ. 2494 เปิดสอนหลักสูตรฝึกหัดครูประถม (ป.ป.) ซึ่งเป็นการเปิดสอนนักเรียนฝึกหัดครู ป.ป. หญิงเป็นครั้งแรกในส่วนภูมิภาคของไทย ในระยะนี้เองที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นสถานที่ทดลองปรับปรุงส่งเสริมการศึกษา โดยความร่วมมือขององค์การระหว่างประเทศหลายองค์การ ได้แก่ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การบริหารความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งอนามัยโลก (WHO) องค์การบริหารความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USOM) มีชาวต่างประเทศเข้ามาดำเนินงานในโครงการนี้จากหลายชาติ คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน ออสเตรเลีย นิวซีแลนต์ แคนาดา อินเดีย ศรีลังกา และญี่ปุ่น ในการนี้ทางโรงเรียนฝึกหัดครูฉะเชิงเทราได้ให้ความร่วมมือกับโครงการ โดยจัดสถานที่ไว้ส่วนหนึ่งสำหรับให้โรงเรียนต่าง ๆ ใช้เป็นสถานที่ประชุม การสาธิตการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยและประเทศต่างๆ
พ.ศ. 2498 มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร โดยใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) แทนหลักสูตร ป.ป. โดยรับนักเรียนชายเข้าเรียนด้วย จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียนสตรีฝึกหัดครูฉะเชิงเทรา เป็น โรงเรียนฝึกหัดครูฉะเชิงเทรา สังกัดกรมการฝึกหัดครู ซึ่งตั้งขึ้นในปีนี้เอง ในช่วงถัดมาโรงเรียนฝึกหัดครูฉะเชิงเทราได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งด้านอาคารสถานที่และด้านการเรียนการสอน โดยได้รับการช่วยเหลือจากองค์การปรับปรุงส่งเสริมการศึกษาและองค์การ ยูนิเซฟ (UNICEF) และได้มีโครงการฝึกหัดครูชนบทขึ้นในระยะนี้ด้วย
วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา
[แก้]1 ตุลาคม พ.ศ. 2513 โรงเรียนฝึกหัดครูฉะเชิงเทรา ได้รับการสถาปนาเป็น วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา เปิดสอนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง) ทั้ง ภาคปกติและภาคค่ำ (Twilight) ในด้านอาคารสถานที่ได้มีการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กแทนอาคารเรียนไม้ที่มีอยู่แต่เดิม และมีอาคารอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ
พ.ศ. 2518 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา จึงได้รับการยกฐานะตามพระราชบัญญัติให้สามารถผลิตครูได้ถึงระดับปริญญาตรี และให้มีภารกิจอื่น ๆ คือ วิจัย ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมวิทยฐานะครูและอบรมครูประจำการ จึงได้มีโครงการอบรมครูประจำการ (อ.คป.) ขึ้น โดยได้เปิดสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 จนถึง พ.ศ. 2530
ในปี พ.ศ. 2527 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู (ฉบับที่ 2) ให้อำนาจวิทยาลัยครูเปิดสอนสาขาวิชาต่าง ๆ ถึงระดับปริญญาตรี วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา จึงเปิดสอนระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาการศึกษา (ค.บ.) สาขาวิทยาศาสตร์ (วท.บ.) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ (ศศ.บ.) ทั้งนักศึกษาภาคปกติและนักศึกษาตามโครงการจัดการศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ (กศ.บป.) ในวันเสาร์ – อาทิตย์
สถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา
[แก้]วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 วิทยาลัยครูทั่วประเทศได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวิทยาลัยครูว่า สถาบันราชภัฏ ซึ่งเมื่อพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2538 วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา จึงเปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา โดยสมบูรณ์
ในปี พ.ศ. 2536 คณะผู้บริหารสถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา ภายใต้การบริหารงานของอธิการบดี รศ.ดร.สุพล วุฒิเสน ได้ดำเนินการขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์บริเวณหนองกระเดือย หมู่ 4 ตำบลหัวไทร อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ส่วนขยายของสถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา โดยดำเนินการประสานงานกับบุคคลสำคัญของท้องถิ่น ผู้เกี่ยวข้อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ อาทิ สภาตำบลหัวไทร ทางการอำเภอบางคล้า ทางการจังหวัดฉะเชิงเทรา กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น จนได้รับการอนุมัติให้ใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ตั้งสถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา ศูนย์บางคล้า ตามหนังสือที่ มท 0618 / 11964 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
[แก้]ในปี พ.ศ. 2541 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ประทานนามสถาบันราชภัฏฉะเชิงเทราว่า สถาบันราชภัฏราชนครินทร์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้นำร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้เป็นกฎหมายตามความในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 115 ตอนที่ 72 ก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2541 สถาบันราชภัฏฉะเชิงเทรา จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันราชภัฏราชนครินทร์[3]
วันที่ 14 มิถุนายน 2547 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช 2547 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 121 ตอนพิเศษ 23 ก. สถาบันราชภัฏราชนครินทร์ จึงได้เปลี่ยนสถานะเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2547 เป็นต้นมา
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
[แก้]ตราประจำมหาวิทยาลัย
[แก้]สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย เป็นรูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักรกลางวงจักรมีอักขระเป็น อุ หรือเลข 9 รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออก ในรอบเหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตรเจ็ดชั้นตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ และรอบนอกด้านบนมีตัวอักษรภาษาไทยว่า "มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ " ด้านล้างมีอักษรภาษาอังกฤษว่า RAJABHAT RAJANAGARINDRA UNIVERSITY
ธงและสี
[แก้]ธงและสีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีขียว และสีเหลือง
ดอกไม้
[แก้]ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกสารภี
ตัวอักษรย่อ
[แก้]ชื่อย่อมหาวิทยาลัย ภาษาไทย มรร. : ภาษาอังกฤษ RRU
คติธรรม
[แก้]คติธรรมประจำมหาวิทยาลัย คือ สิกฺเขยฺย สิกฺขิตพฺพานิ หมายถึง พึงศึกษาในสิ่งที่ควรศึกษา
การศึกษา
[แก้]มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์เปิดการเรียนการสอนคลอบคลุมทั้งหมด 5 คณะ 3 สถาบัน บัณฑิตวิทยาลัย และโรงเรียนสาธิต ประกอบไปด้วย
คณะ
[แก้]
คณะครุศาสตร์[แก้]เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 10 สาขาวิชาได้แก่
|
คณะวิทยาการจัดการ[แก้]เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 9 สาขาวิชาได้แก่
|
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[แก้]เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 12 สาขาวิชาได้แก่
|
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศ���สตร์[แก้]เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 9 สาขาวิชาได้แก่
|
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม[แก้]เปิดการเรียนการสอน 7 สาขาวิชาได้แก่
|
สถาบัน
[แก้]- สถาบันวิจัยและพัฒนา
- สถาบันพัฒนาคุณภาพครู (สพค.)
- สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
หน่วยงานภายใน
[แก้]- สำนักงานอธิการบดี
- สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน
- สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ]
- หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจ (RRUBI)
ศูนย์
[แก้]- ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมและท้องถิ่น
- ศูนย์ภาษา
- ศูนย์การเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์
- ศูนย์เครือข่ายสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
โรงเรียนสาธิต
[แก้]- โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
บัณฑิตวิทยาลัย
[แก้]- บัณฑิตวิทยาลัย
พื้นที่มหาวิทยาลัย
[แก้]ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีสถานที่ปฎิบัติงานแยกกันเป็น 3 แห่ง คือ[2]
- แห่งแรก ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 พื้นที่ 43 ไร่
- แห่งที่สอง ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 30 ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 พื้นที่ประมาณ 17 ไร่
- แห่งที่สาม ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 6 หมู่ 4 ตำบลหัวไทร อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เป็นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้ใช้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
รายนามอธิการบดี
[แก้]มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์มีอธิการบดีมาแล้ว 13 ท่าน ดังรายนามต่อไปนี้
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ | |
รายนามครูใหญ่ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|
1. นางสาวชิตพันธ์ นคาวัฒน์ | พ.ศ. 2483 - พ.ศ. 2485 |
2. นางทวี ชุติวงศ์ | พ.ศ. 2485 - พ.ศ. 2494 |
3. นางสาวจรัสสม ปุณณะหิตานนท์ | พ.ศ. 2494 - พ.ศ. 2497 |
รายนามอาจารย์ใหญ่ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
3. นางสาวจรัสสม ปุณณะหิตานนท์ | พ.ศ. 2497 - พ.ศ. 2498 |
4. นางฉวีวรรณ ดุลยจินดา | พ.ศ. 2497 - พ.ศ. 2501 |
5. นายสนอง ศุขสมาน | พ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2503 |
6. นายพิษณุ ชัชวาลย์ปรีชา | พ.ศ. 2503 - พ.ศ. 2505 |
7. นายทวีสิน ชุติวงศ์ | พ.ศ. 2505 - พ.ศ. 2508 |
8. นางสาววัชรี พิมพยะจันทร์ | พ.ศ. 2508 - พ.ศ. 2515 |
รายนามผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
8. นางสาววัชรี พิมพยะจันทร์ | พ.ศ. 2515 - พ.ศ. 2518 |
รายนามอธิการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
8. นางสาววัชรี พิมพยะจันทร์ | พ.ศ. 2518 - พ.ศ. 2528 |
9. นายฉลอง ภิรมย์รัตน์ | พ.ศ. 2528 - พ.ศ. 2532 |
10. รศ.ดร.สุพล วุฒิเสน | พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2538 |
รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง |
10. รศ.ดร.สุพล วุฒิเสน | พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2546 |
11. ผศ.เอนก เทพสุภรณ์กุล | พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2556 |
12. ผศ.ดร.อุทัย ศิริภักดิ์ | พ.ศ. 2556 - พ.ศ. 2559 [4] |
13. รศ.ดร.ดวงพร ภู่ผะกา | 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560 [5] - ปัจจุบัน |
อ้างอิง
[แก้]- http://rru-comsci.blogspot.com/2008/05/blog-post_08.html
- http://krusart.rru.ac.th
- http://human.rru.ac.th)
- http://fms.rru.ac.th
- http://science.rru.ac.th
- http://techno.rru.ac.th
- http://grad.rru.ac.th
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๒๗, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 สารสนเทศประจำปี 2565 มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
- ↑ https://www.komchadluek.net/news/local/415576
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์พ้นจากตำแหน่ง (นายอุทัย ศิริภักดิ์)
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (นางสาวดวงพร ภู่ผะกา)