นักบุญวาเลนตินุส
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
นักบุญวาเลนไทน์ | |
---|---|
เซนต์วาเลนไทน์ได้รับสายลูกประคำ (rosary) จากพระแม่มารีย์ โดยเดวิด เตอเนียร์สที่ 3 | |
หัวหน้าบาทหลวงและผู้พลีชีพในศาสนา | |
เกิด | ค.ศ. 226 แตร์นี |
เสียชีวิต | 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 269 (อายุ 42–43)[1] โรม |
นับถือ ใน | Catholic Church Anglican Communion Lutheranism, and individual protestant churches, including Baptists |
วันฉลอง | February 14 (Catholic, Anglican and Lutheran Churches) |
สัญลักษณ์ | นก; กุหลาบ; หัวหน้าบาทหลวงที่มีคนพิการหรือเด็กซึ่งเป็นโรคลมชีกที่ใกล้เท้า; หัวหน้าบาทหลวงที่มีไก่ตัวผู้อยู่ใกล้ ๆ; หัวหน้าบาทหลวงที่ปฏิเสธที่จบูชารูปปั้น; หัวหน้าบาทหลวงที่กำลังจะถูกตัดคอ; นักบุญกำลังถือดาบ; นักบุญกำลังถือพระอาทิตย์; นักบุญกำลังทำให้เด็กหญิงที่ตาบอดกลับมามองเห็น[1] |
องค์อุปถัมภ์ | การหมั้น, ต่อต้านการหมดสติชั่วคราว, ผู้เลี้ยงผึ้ง, การแต่งงานที่มีความสุข, ความรัก, กาฬโรค, โรคลมชัก[1] |
นักบุญวาเลนตินุส, นักบุญวาเลนตินัส, เซนต์วาเลนไทน์ หรือ นักบุญวาเลนไทน์ (อิตาลี: San Valentino, ละติน: Valentinus, อังกฤษ: Saint Valentine) เป็นนักบุญของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ของกรุงโรม เซนต์วาเลนไทน์เกิดเมื่อ ค.ศ. 226 เสียชีวิตเมื่อวันที่14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 269 เรารู้จักกันดีว่า เซนต์วาเลนไทน์เป็นต้นกำเนิดของวันวาเลนไทน์
ตำนาน
[แก้]เซนต์วาเลนไทน์เป็นบาทหลวงอยู่ที่โบสถ์ใกล้ๆกรุงโรม ต่อมาในยุคสมัยของพระเจ้าคลอดิอุสที่2 มีการตั้งกฎหมายว่าห้ามมีการแต่งงานในเมืองของพระองค์ เพราะพระองค์ต้องการให้ผู้ชายทุกคนในเมืองต้องไปเป็นทหารในการทำสงคราม เซนต์วาเลนไทน์รู้สึกเห็นใจผู้ชายและผู้หญิงที่มีความรัก เซนต์วาเลนไทน์จึงแอบทำพิธีแต่งงานให้กับผู้ชายผู้หญิงที่มีความรักอย่างลับๆ โดยภายในงานมีเพียง เจ้าสาว เจ้าบ่าว และบาทหลวงเท่านั้น พวกเขาจึงต้องกระซิบคำสาบานและการอธิษฐานในการแต่งงาน ในที่สุด ทหารของพระเจ้าคลอดิอุสก็ได้มาเห็นพิธีพอดี แล้วเรื่องราวก็ไปถึงพระเจ้าคลอดิอุส เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกจำคุกและถูกลงโทษอย่างหนักและแสนสาหัส แต่คนที่ถูกทำพิธีแต่งงานโดยเซนต์วาเลนไทน์มักแอบมาเยี่ยมเซนต์วาเลนไทน์ที่คุกอยู่เสมอ ต่อมาผู้คุมคุกของเซนต์วาเลนไทน์ชื่อแอสทีเรียส เขามีลูกสาวที่ตาบอด จึงขอให้เซนต์วาเลนไทน์ช่วยรักษา แล้วลูกสาวของแอสทีเรียสก็กลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม ลูกสาวของแอสทีเรียสจึงมาเยี่ยมเซนต์วาเลนไทน์ที่คุกอยู่เสมอเช่นเดียวกัน จนกระทั่งถึงวันประหารชีวิตเซนต์วาเลนไทน์ ก่อนเขาเสียชีวิตเขาก็เขียนจดหมายถึงลูกสาวของแอสทีเรียสและลงท้ายด้วยคำว่า "From your valentine" แล้วเซนต์วาเลนไทน์ก็ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 269
หลังมรณกรรมของนักบุญวาเลนตินุส
[แก้]หลังเซนต์วาเลนไทน์เสียชีวิต ก็มีการบรรจุกะโหลกของเซนต์ว��เลนไทน์ไว้เป็นเรลิกที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ต่อมาพระสันตะปาปาเกลาซิอุสได้แต่งตั้งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิต เป็นวันสำคัญ คือวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันแห่งความรักนั่นเอง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Jones, Terry. "Valentine of Terni". Patron Saints Tom. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 1, 2010. สืบค้นเมื่อ February 14, 2007.