จักรพรรดิซากูรามาจิ
จักรพรรดิซากูรามาจิ 桜町天皇 | |||||
---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดิญี่ปุ่น | |||||
ครองราชย์ | 13 เมษายน ค.ศ. 1735 – 9 มิถุนายน ค.ศ. 1747 | ||||
ก่อนหน้า | นากามิกาโดะ | ||||
ถัดไป | โมโมโซโนะ | ||||
โชกุน | ดูรายชื่อ
| ||||
ประสูติ | 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1720 เกียวโต รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ เทรูฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 昭仁; โรมาจิ: Teruhito) | ||||
สวรรคต | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1750 เกียวโต รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ | (30 ปี)||||
ฝังพระศพ | สึกิ โนะ วะ โนะ มิซาซางิ เกียวโต | ||||
คู่อภิเษก | นิโจ อิเอโกะ | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชสกุล | ราชวงศ์ญี่ปุ่น | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดินากามิกาโดะ | ||||
พระราชมารดา | โคโนเอะ ฮิซาโกะ |
เทรูฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 昭仁; โรมาจิ: Teruhito; 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1720 – 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1750) ได้รับการเลื่อนพระเกียรติหลังสวรรคตเป็น จักรพรรดิซากูรามาจิ (ญี่ปุ่น: 桜町天皇; โรมาจิ: Sakuramachi-tennō) เป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 115 ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์แบบดั้งเดิม[1][2] พระองค์ขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิในปี 1735 ครองราชย์จนถึงปี 1747 จึงสละราชบัลลังก์[3] เช่นเดียวกับจักรพรรดิองค์ก่อน ๆ ในยุคเอโดะ โชกุนตระกูลโทกูงาวะเป็นผู้ปกครองญี่ปุ่น
บทบาทของจักรพรรดิคือผู้นำทางศาสนาที่มีพระราชอำนาจจำกัด เมื่อจักรพรรดิซากูรามาจิได้รับอนุญาตจากโชกุนให้ฟื้นฟูพิธีกรรมบางอย่าง สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไป พิธีกรรมต่าง ๆ เช่น เทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งเคยถูกห้ามมายาวนานกว่า 250 ปี กลับมาได้รับอนุญาตให้จัดขึ้นอีกครั้ง จักรพรรดิซากูรามาจิมีจักรพรรดินี 1 พระองค์ พระสนม 1 พระองค์ พระองค์มีพระโอรสธิดารวม 4 พระองค์ พระโอรสองค์โตของพระองค์คือ เจ้าชายโทฮิโตะ (ต่อมาคือจักรพรรดิโมโมโซโนะ) และพระธิดาองค์ที่ 2 คือ เจ้าหญิงโทชิโกะ (ต่อมาคือจักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ) จักรพรรดิซากูรามาจิสวรรคตเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 1750 ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 3 ปีหลังจากพระองค์สละราชบัลลังก์
เหตุการณ์ในพระชนม์ชีพของจักรพรรดิซากูรามาจิ
[แก้]ช่วงต้นพระชนม์
[แก้]ก่อนที่จักรพรรดิซากูรามาจิจะขึ้นสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ พระองค์มีพระนามเดิมว่า เจ้าชายเทรูฮิโตะ (昭仁)[4] เจ้าชายเทรูฮิโตะประสูติเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1720 เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ของจักรพรรดินากามิกาโดะ เหตุการณ์ในช่วงต้นพระชนม์ของเจ้าชายเทรูฮิโตะคือเอโดะกลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในปี 1721 ด้วยจำนวนประชากรถึง 1.1 ล้านคน[5] ในวันที่ 17 กรกฎาคม 1728 เจ้าชายเทรูฮิโตะได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาท และได้รับพระอิสริยยศก่อนขึ้นครองราชย์ว่า วากะโนะมิยะ (若宮)[6] เหตุการณ์สำคัญเพียงเหตุการณ์เดียวหลังจากนั้นคือภัยพิบัติในปี 1732–33 ที่เรียกว่า ความอดอยากปีเคียวโฮ เหตุการณ์นี้เกิดจากฝูงตั๊กแตนที่เข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรในชุมชนเกษตรกรรมรอบทะเลสาบ[7]
ครองราชย์
[แก้]เจ้าชายเทรูฮิโตะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิซากูรามาจิ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 1735 เมื่อจักรพรรดินากามิกาโดะ พระราชบิดา สละราชบัลลังก์ให้ โดยเปลี่ยนชื่อศักราชจากเคียวโฮเป็นเก็มบุน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเหตุการณ์นี้[8]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พระบรมวงศานุวงศ์
[แก้]จักรพรรดิซากูรามาจิมีพระราชโอรสธิดาอย่างน้อย 3 พระองค์จากพระมเหสี 2 พระองค์:
พระมเหสี
[แก้]บรรดาศักดิ์ | พระนาม | ประสูติ | สวรรคต | พระบิดา | พระราชโอรสธิดา |
---|---|---|---|---|---|
ชูงู | นิโจ อิเอโกะ (ญี่ปุ่น: 二条舎子; โรมาจิ: Nijō Ieko) | 1716 | 1790 | นิโจ โยชิตาดะ | • พระราชธิดาองค์แรก: เจ้าหญิงโนริโกะ • พระราชธิดาองค์ที่ 2: เจ้าหญิงโทชิโกะ (ภายหลังเป็น จักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ) |
พระสนม
[แก้]พระนาม | ประสูติ | สวรรคต | พระบิดา | พระราชโอรสธิดา |
---|---|---|---|---|
อาเนงาโกจิ ซาดาโกะ (ญี่ปุ่น: 姉小路定子; โรมาจิ: Anegakōji Sadako) | 1717 | 1789 | อาเนงาโกจิ ซาเนตาเกะ | • พระราชโอรสองค์แรก: เจ้าชายโทฮิโตะ (ภายหลังเป็น จักรพรรดิโมโมโซโนะ) |
พระราชโอรสธิดา
[แก้]จักรพรรดิซากูรามาจิมีพระราชโอรสธิดา 3 พระองค์จากพระมเหสีและพระสนม
สถานะ | พระนาม | พระราชสมภพ | สวรรคต | พระราชมารดา | สมรส | พระะราชโอรสธิดา |
---|---|---|---|---|---|---|
พระราชธิดาองค์แรก | เจ้าหญิงโนริโกะ (ญี่ปุ่น: 盛子内親王) | 1737 | 1746 | นิโจ อิเอโกะ | — | — |
พระราชธิดาองค์ที่ 2 | เจ้าหญิงโทชิโกะ (ญี่ปุ่น: 智子内親王) (ภายหลังเป็น จักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ) |
1740 | 1813 | นิโจ อิเอโกะ | — | — |
พระราชโอรสองค์แรก | เจ้าชายโทฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 遐仁親王) (ภายหลังเป็น จักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ) |
1741 | 1762 | อาเนงาโกจิ ซาดาโกะ | อิจิโจ โทมิโกะ | • เจ้าชายฮิเดฮิโตะ (ภายหลังเป็น จักรพรรดิโกะ-โมโมโซโนะ) • เจ้าชายฟูชิมิ-โนะ-มิยะ ซาดาโมจิ |
พระราชพงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของจักรพรรดิซากูรามาจิ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Imperial Household Agency (Kunaichō): 桜町天皇 (115)
- ↑ Ponsonby-Fane, Richard. (1959). The Imperial House of Japan, p. 119.
- ↑ Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon, pp. 417–418.
- ↑ Klaproth, Julius von (1834). Nipon o daï itsi ran; ou, Annales des empereurs du Japon (ภาษาฝรั่งเศส). Oriental Translation Fund.
- ↑ Foreign Press Center. (1997). Japan: Eyes on the Country, Views of the 47 Prefectures, p. 127.
- ↑ Meyer, Eva-Maria. (1999). Japans Kaiserhof in der Edo-Zeit, pp. 47–48.
- ↑ Hall, John. (1988). The Cambridge History of Japan, p. 456.
- ↑ Meyer, p. 47.
- ↑ "Genealogy". Reichsarchiv (ภาษาญี่ปุ่น). 30 April 2010. สืบค้นเมื่อ 20 January 2018.
ข้อมูล
[แก้]- Meyer, Eva-Maria. (1999). Japans Kaiserhof in der Edo-Zeit: unter besonderer Berücksichtigung der Jahre 1846 bis 1867. Münster: LIT Verlag. ISBN 978-3-8258-3939-0; OCLC 42041594
- Ponsonby-Fane, Richard Arthur Brabazon. (1956). Kyoto: The Old Capital of Japan, 794–1869. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 182637732
- __________. (1959). The Imperial House of Japan. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 194887
- Screech, Timon. (2006). Secret Memoirs of the Shoguns: Isaac Titsingh and Japan, 1779–1822. London: RoutledgeCurzon. ISBN 978-0-203-09985-8; OCLC 65177072
- Titsingh, Isaac. (1834). Nihon Ōdai Ichiran; ou, Annales des empereurs du Japon. Paris: Royal Asiatic Society, Oriental Translation Fund of Great Britain and Ireland. OCLC 5850691