ข้ามไปเนื้อหา

แขวงสุวรรณเขต

พิกัด: 16°32′N 105°47′E / 16.54°N 105.78°E / 16.54; 105.78
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แขวงสุวรรณเขต

ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ
ร้านอาหารในแม่น้ำโขง
ร้านอาหารในแม่น้ำโขง
แผนที่แขวงสุวรรณเขต
แผนที่แขวงสุวรรณเขต
แผนที่ประเทศลาวเน้นแขวงสุวรรณเขต
แผนที่ประเทศลาวเน้นแขวงสุวรรณเขต
พิกัด: 16°32′N 105°47′E / 16.54°N 105.78°E / 16.54; 105.78
ประเทศ ลาว
เมืองเอกไกสอน พมวิหาน
พื้นที่
 • ทั้งหมด21,774 ตร.กม. (8,407 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (สำมะโนเดือนกรกฎาคม 2561)
 • ทั้งหมด1,037,553 คน
 • ความหนาแน่น48 คน/ตร.กม. (120 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+07
รหัสไปรษณีย์13000
รหัส ISO 3166LA-XI

สุวรรณเขต หรือ สะหวันนะเขด (ลาว: ສະຫວັນນະເຂດ, สะหวันนะเขด) เป็นชื่อหน่วยทางการปกครองระดับแขวงหนึ่งของประเทศลาวอยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีพื้นที่​มากที่สุดในประเทศคือ 21,774 ตร.กม มีประชากรมากกว่า 1.037 ล้านคนจากการสำรวจสำมะโนครัวใน พ.ศ. 2561 พลเมืองส่วนใหญ่ร้อยละ 70% ทำเกษตรกรและอุตสาหกรรม ทิศเหนือ​ติดกับ แขวงคำม่วน​ ทิศใต้ติดกับแขวงสาละวัน​ ทิศตะวันออกติดกับเวียดนาม​ และทิศตะวันตกติดกับไทย

วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ได้มีพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ 2 อย่างเป็นทางการ สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตะวันตกจากเวียดนามถึงพม่า ทำให้แขวงสุวรรณเขตกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งของลาว รัฐบาลลาวได้ประกาศจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโนขึ้นเพื่อส่งเสริมการลงทุน

การแบ่งเขตการปกครอง

[แก้]
แผนที่ รหัสเมือง เมือง (ไทย) เมือง (ลาว) เมือง (อังกฤษ)
13-01 ไกสอน พมวิหาน
(เดิม : คันธบุรี)
ໄກສອນ ພົມວິຫານ
(เดิม : ຄັນທະບູລີ)
Kaysone Phomvihane
(เดิม : Khanthabouly)
13-02 อุทุมพอน ອຸທຸມພອນ Outhoumphone
13-03 อาดสะพังทอง ອາດສະພັງທອງ Atsaphangthong
13-04 พีน ພີນ Phine
13-05 เซโปน ເຊໂປນ Sepone
13-06 นอง ນອງ Nong
13-07 ท่าปางทอง ທ່າປາງທອງ Thapangthong
13-08 สองคอน ສອງຄອນ Songkhone
13-09 จำพอน ຈຳພອນ Champhone
13-10 ซนบุลี ຊົນບຸລີ Xonnabouly
13-11 ไซบูลี ໄຊບູລີ Xaybuly
13-12 วีละบุลี ວີລະບຸລີ Vilabuly
13-13 อาดสะพอน ອາດສະພອນ Atsaphone
13-14 ไซพูทอง ໄຊພູທອງ Xayphouthong
13-15 พะลานไซ ພະລານໄຊ Phalanxay

ประวัติ

[แก้]
อนุสาวรีย์มิตรภาพลาว-เวียดนาม ในสุวรรณเขต

ก่อนสมัยขอมเรืองอำนาจดินแดนแถบนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของนครรัฐศรีโคตรบูร (สีโคดตะบูนหรือสีโคดตะบอง) นครรัฐสำคัญในพุทธตำนานท้องถิ่น ต่อมาในสมัยขอมเรืองอำนาจได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิประเทศหรือสุวัณณภูมิรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติและเป็นดินแดนเผยแผ่พระพุทธศาสนาร่วมกับเวียงจันทน์ พ.ศ. 2120 รัชกาลพระยาศรีวรวงษาธิราชหรือพระมหาอุปราชศรีวรวงษา (พ.ศ. 2118-23) หม่อมบ่าวหลวง (เจ้าคำโพน) กวานดงเขนยเมืองน้ำน้อยอ้อยหนูและนางสิมมาภริยา ได้อพยพไพร่พลจากน้ำน้อยอ้อยหนูทางภาคเหนือของล้านช้างลงมาตั้งหมู่บ้านชื่อว่าบ้านหลวงโพนสิมแล้วยกขึ้นเป็นเมืองชื่อเมืองหลวงมหาสุวัณณภูมคำโพนสิมมาเขตต์ (เมืองโพนสิมเก่า) โดยถือเอาแร่ทองคำและภูมิประเทศซึ่งเป็นเนินดินสูงมาเป็นนิมิตเมือง ปัจจุบันห่างจากตัวเมืองสุวรรณเขตราว 18 กิโลเมตรในเส้นทางไปพระธาตุอิงฮัง วัดพระธาตุอิงฮัง บ้านธาตุอิงฮัง นครไกสอนพมวิหาน ครั้นถึง พ.ศ. 2185 ท้าวแก้วสิมพลีบุตรชายคนรองอพยพไพร่พลหลายสิบครัวแยกออกไปตั้งบ้านเมืองใหม่ในริมฝั่งแม่น้ำโขงชื่อว่าบ้านท่าแฮ่ (ท่าแหหรือท่าแห่) แล้วสร้างวัดขึ้นโดยใช้หินแฮ่ที่มีอยู่มากในบริเวณริมโขงมาเป็นวัสดุก่อสร้าง ​

ต่อมาท้าวแก้วสิมพลีจึงอพยพไพร่พลข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งที่ปากห้วยบังมุกแล้วตั้งเป็นเมืองใหม่ชื่อว่ามุกดาหารบุรีสีมุตติกนคร (เมืองบังมุก) โดยถือเอาหอยกาบมุกที่ปากห้วยบังมุกเป็นนิมิตเมือง ฝ่ายพี่ชายชื่อท้าวคำสิงห์ได้อพยพไพร่พลไปสร้างบ้านท่าสะโน (ท่าสะโหน) แล้วข้ามแม่น้ำโขงไปตั้งบ้านชะโนด (สะโนด) ในอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหารปัจจุบัน ครั้นหม่อมบ่าวหลวงบิดาถึงแก่อนิจกรรมชาวเมืองจึงตั้งท้าวหลวงท่อมเป็นเจ้าเมืองสืบต่อโดยมีผู้คนอาศัยอยู่เบาบางไม่ถึงร้อยหลังคาเรือน หลัง พ.ศ. 2256 สมเด็จพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรหรือเจ้าหน่อกษัตริย์ (พ.ศ. 2256-80) สถาปนาตนเป็นปฐมกษัตริย์นครจำปาสักได้โปรดฯ ให้เจ้าจารย์จันทสุริยวงศ์โอรสเจ้าศรีวิชัยแห่งราชวงศ์เว��ยงจันทน์ศิษย์คนสำคัญของเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็กไปปกครองเมืองหลวงโพนสิมร้างอยู่หลายสิบปี มีเมืองพิน เมืองนอง เมืองตะโปน (เซโปน) เป็นเมืองขึ้น ต่อมา พ.ศ. 2310 เจ้าจันทกินรี (เจ้ากินรี) บุตรเจ้าจารย์จันทสุริยวงศ์ได้อพยพไพร่พลจากเมืองหลวงโพนสิมมาสร้างเมืองบังมุกร้างของท้าวแก้วสิมพลีและได้รับนามยศเป็นเจ้าพระยาสีโสราชอุปราชามันธาตุราชเจ้าเมืองมุกดาหารบุรีสีสัตตตาลนคร โดยถือเอาแก้วมุกดาหารที่เสด็จลอยออกจากต้นตาลเจ็ดยอดในเวลากลางคืนเป็นนิมิต[ต้องการอ้างอิง]

ในเขตตัวเมืองสุวรรณเขตปัจจุบันแต่เดิมมีหมู่บ้านหนึ่งเรียกกันว่า บ้านท่าแฮ่ (ท่าแร่) เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ ทองคำ และนัยว่าอุดมด้วยหินแฮ่ จึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นที่มาของชื่อแขวงสุวรรณเขตด้วย คำว่าสุวรรณเขตนั้นมาจากคำว่า สุวรรณ หรือ สุวัณฺณ แปลว่าทอง ซึ่งคนลาวเรียกว่าคำ รวมกับคำว่า เขต หรือ เขตฺต ที่แปลว่าเขตแดนหรือดินแดน ดังนั้นคำว่า สุวรรณเขต จึงหมายถึงดินแดนแห่งทองคำ นอกจากนี้ ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาตั้งศูนย์กลางการปกครองอาณานิคมบริเวณตอนกลางของลาวนั้น ฝรั่งเศสได้อาศัยการตั้งชื่อแขวงสุวรรณเขตนี้จากหมู่บ้านที่ชื่อว่า บ้านนาคำ อย่างไรก็ตาม ชนชั้นปกครองแขวงสุวรรณเขตในสมัยอาณานิคมได้เลือกใช้คำศัพท์คำว่า สะหวัน แทนคำว่า สุวรรณ จึงทำให้แขวงสุวรรณเขตได้ชื่อว่าสะหวันนะเขด ซึ่งแปลว่าดินแดนแห่งสวรรค์มาแต่บัดนั้น ในปัจจุบันคนลาวไม่เรียกแขวงสะหวันนะเขตว่าสุวรรณเขตอีกแล้ว มีแต่เพียงเอกสารเก่าของลาวเท่านั้นที่เรียกชื่อเมืองนี้ว่า สุวรรณเขต[ต้องการอ้างอิง]

หลังจากลาวตกเป็นประเทศอาณานิคมแล้ว ฝรั่งเศสได้สร้างเมืองสุวรรณเขตให้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองที่สำคัญแห่งหนึ่งของลาวตอนกลาง พร้อมทั้งวางผังเมืองใหม่ โดยตั้งท้าววรกุมาร (ปุ้ย) นายด่านบ้านผักขยานากุดจาน เมืองอาดสะพังทอง ซึ่งเคยเป็นอดีตกรมการเก่าเมืองมุกดาหาร ให้เป็น พญาปุ้ย เจ้าเมืองสุวรรณเขตคนแรก และตั้ง ท้าวฮ่อม หลานชายของพระอมรฤทธิธาดา (กุ) เจ้าเมืองพาลุกากรภูมิ (เมืองตาลุกะหรือบ้านบังทราย) ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงขึ้นเป็นเจ้าเมืองคันธบุรีคนแรก ต่อมาหลังจากนั้นไม่นานได้มีการตั้งเมืองคันธบุรีเป็นเมืองหลวงของแขวงสุวรรณเขต เมืองหลวงของแขวง ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น เมืองไกสอน พมวิหาน สำหรับเมืองคันธบุรีนี้ เดิมเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านข้าโอกาสกัลปนาเพื่อปลูกสวนดอกไม้ไว้สำหรับเก็บมานมัสการพระธาตุอิงฮัง หมู่บ้านนั้นชื่อว่า บ้านดงดอกไม้ เมื่อมีการตั้งบ้านดงดอกไม้ขึ้นเป็นเมือง จึงใช้ชื่อว่า เมืองคันธบุรี แปลว่าเมืองที่มีแต่กลิ่นหอมของดอกไม้นั่นเอง[ต้องการอ้างอิง]

ประชากร

[แก้]

ชนเผ่าในแขวงสุวรรณเขตมีทั้งหมด 8 ชนเผ่า ได้แก่ เผ่าลาว, เผ่าผู้ไท, เผ่ามังกอง (มะกอง), เผ่าตะโอ้ย, เผ่าปะโกะ, เผ่าส่วย, เผ่ากะตาง, เผ่าตรี{{[ต้องการอ้างอิง]​​

สถานที่ท่องเที่ยว

[แก้]
  • วัดพระธาตุโพ่น
  • วัดพระธาตุอิงฮัง
  • วัดรัตนรังษี
  • วัดไชยสมบูรณ์
  • สะพานมิตรภาพ 2
  • วัดเจ้า
  • ปราสาทเฮือนหิน
  • อนุสาวรีย์ท่านกุ วรวงศ์
  • ตลาดสิงคโปร์
  • โบสถ์เซนต์เทเรซ่า
  • เซโปน
  • ป่าสงวนภูช้างแห
  • พิพิธภัณฑ์แขวงสุวรรณเขต
  • พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์
  • ถนนสีเมือง
  • ลานพญานาค ริมโขง วัดชัยภูมิ
  • ศาลหลักเมืองแขวงสุวรรณเขต
  • วัดป่าถ้ำเจีย
  • วัดป่ามหาโชค

เทศกาลและงานประเพณีประจำปี

[แก้]

การคมนาคม

[แก้]

ทางหลวง

[แก้]

ท่าอากาศยาน

[แก้]

ด่านพรมแดนที่สำคัญ

[แก้]

คมนาคม

[แก้]
  • เส้นทางหมายเลข 9 เป็นเส้นทางเชื่อมเศรษฐกิจ ทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก หรือ EWEC.
  • เส้นทางหมายเลข 13 เป็นเส้นทางตัดผ่านแต่เหนือถึงใต้

การเดินทาง

[แก้]

จากจังหวัดมุกดาหาร ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็จะถึงแขวงสุวรรณเขตหรือมาโดยรถโดยสารประจำทาง ที่หมอชิต 2 มีรถโดยสารไปจังหวัดมุกดาหารทุกวัน โทรศัพท์ 0 2936 2841-8, 0 2936 2852-66 เมื่อมาถึงสถานีขนส่ง แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ ก็จะถึงเมืองแขวงสุวรรณเขต

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • สัญญา ชีวะประเสริฐ. (2555). ความทรงจำของเมืองสองฝั่งแม่น้ำโขง: มุกดาหาร และสะหวันนะเขด. วารสารประวัติศาสตร์ (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ). หน้า 49-60.
  • ธวัชชัย พรหมณะ. (2545). ความสำคัญของการอพยพเคลื่อนย้ายกลุ่มชาติพันธุ์ในลุ่มแม่น้ำโขงต่อความเป็นเมืองสุวรรณเขต ระหว่าง ค.ศ. 1893-1954. สารนิพนธ์ ศศ.ม. (ประวัติศาสตร์เอเชีย). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ดูได้ที่ http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/His%28M.A.)/Thawatchai_P.pdf