ข้ามไปเนื้อหา

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซ��

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ
เจ้าชายโทโมฮิโตะ เมื่อ พ.ศ. 2546
ประสูติ5 มกราคม พ.ศ. 2489
ฮายามะ จังหวัดคานางาวะ จักรวรรดิญี่ปุ่น
สิ้นพระชนม์6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 (66 ปี)
สถาบันซาซากิ โรงพยาบาลเคียวอุนโด โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
พระชายาโนบูโกะ อาโซ (พ.ศ. 2523–2555)
พระบุตรเจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ
เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ
ราชวงศ์ญี่ปุ่น
พระบิดาเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ
พระมารดาเจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาฯ

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 寛仁親王โรมาจิTomohito Shinnō; 5 มกราคม พ.ศ. 2489 – 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555) เป็นพระโอรสองค์ใหญ่ของเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ กับเจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาฯ เป็นพระญาติวงศ์ชั้นที่ 1 ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ เคยอยู่ในลำดับที่หกแห่งการสืบราชสันตติวงศ์ญี่ปุ่น และเป็นว่าที่ผู้สืบบรรดาศักดิ์ มิกาซะโนะมิยะ ต่อจากพระบิดา เจ้าชายโทโมฮิโตะเป็นเจ้านายพระองค์แรกตั้งแต่ยุคเมจิที่ไว้พระมัสสุและพระทาฐิกะ มีสมญาว่า "เจ้าเครา" (ヒゲの殿下, Hige no Denka)[1]

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ด้วยโรคมะเร็ง

พระประวัติ

[แก้]

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ ประสูติเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2489 ณ วังของพระบิดา สำเร็จการศึกษาสาขารัฐศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกากูชูอิง เมื่อ พ.ศ. 2511 และทรงศึกษาต่อที่วิทยาลัยมอดลิน มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร ช่วง พ.ศ. 2511–2513

เสกสมรส

[แก้]

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะทรงหมั้นกับโนบูโกะ อาโซ ธิดาของทากากิจิ อาโซ ประธานบริษัทอาโซซีเมนต์ หลานตาของชิเงรุ โยชิดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และเป็นน้องสาวของทาโร อาโซ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 และเสกสมรสในวันที่ 7 พฤศจิกายนปีเดียวกัน และโนบูโกะได้รับการสถาปนา��ึ้นเป็น เจ้าหญิงพระชายา ถือเป็นเจ้านายญี่ปุ่นพระองค์ที่สองที่มีพื้นเพเป็นคริสตัง (พระองค์แรกคือสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ แต่ต่างตรงที่เจ้าหญิงโนบูโกะทรงผ่านพิธีศีลล้างบาปมาแล้ว) ทั้งสองมีพระธิดาด้วยกันสองพระองค์ คือ

  1. เจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 彬子女王โรมาจิAkiko Joō; ประสูติ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2524)
  2. เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 瑶子女王โรมาจิYōko Joō; ประสูติ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2526)

เดิมเจ้าชายโทโมฮิโตะและครอบครัวประทับอยู่ร่วมกันในเขตพระราชฐานอากาซากะ เขตมินาโตะ โตเกียว กระทั่งเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 เจ้าหญิงโนบูโกะทรงแยกจากพระสวามีและพระธิดาออกไปประทับที่อื่น[2]

สิ้นพระชนม์

[แก้]

เจ้าชายโทโมฮิโตะได้รับการวินิจฉัยว่าประชวรด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ต่อมาทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงใน พ.ศ. 2546 และทรงรับถวายการรักษาทันที เดือนกันยายน พ.ศ. 2549 พระองค์กรามหักหลังการรักษาด้วยเคมีบำบัด ครั้น พ.ศ. 2550 เจ้าชายโทโมฮิโตะทรงตรัสต่อสาธารณชนว่า พระองค์ประชวรด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและกำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลของสำนักพระราชวัง[1] เดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 เชื้อมะเร็งกระจายไปทั่วพระศอ (คอหอย) และทรงเข้ารับการผ่าตัด[3] แม้จะพยายามรักษาเสียงของพระองค์ไว้ได้ แต่หลังการประชวรด้วยพระอาการพระปับผาสะอักเสบอันเกิดการการกลืนพระกระยาหารที่ไม่เหมาะสม พระองค์ต้องใช้เครื่องช่วยพูด (Electrolarynx) เมื่อมีรับสั่งเท่านั้น

เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เนื่องจากอวัยวะภายในล้มเหลว สิริพระชันษา 66 ปี[4] พระราชพิธีถวายพระเพลิงจัดขึ้นภายในสุสานหลวงโทชิมางาโอกะ มีผู้เข้าร่วมพระราชพิธี 660 คน[5]

มิถุนายน พ.ศ. 2556 สำนักพระราชวังญี่ปุ่นประกาศรวมครอบครัวของเจ้าชายโทโมฮิโตะเข้ากับเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ เป็นครอบครัวเดียวกัน[2]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 A Font of Commentary Amid Japan’s Taciturn Royals New York Times, 20 October 2007
  2. 2.0 2.1 "Prince's 2012 passing reduces Imperial household families by one". Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-26. สืบค้นเมื่อ 2013-12-13.
  3. Prince Tomohito to undergo surgery for throat cancer เก็บถาวร 1 ตุลาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Japan News Review 14 March 2008
  4. 三笠宮寛仁さま ご逝去. NHK (ภาษาญี่ปุ่น). 6 June 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 June 2012. สืบค้นเมื่อ 6 June 2012.
  5. "Prince Tomohito's funeral draws 660 luminaries". The Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2012. สืบค้นเมื่อ 9 January 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]