ข้ามไปเนื้อหา

สตาร์ วอร์ส ฮอลิเดย์สเปเชียล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สตาร์ วอร์ส ฮอลิเดย์สเปเชียล
โฆษณาภาพยนตร์ตอนพิเศษฯ ในนิตยสาร TV Guide
เค้าโครงจากสตาร์ วอร์ส โดยจอร์จ ลูคัส
เขียนโดย
กำกับโดย
แสดงนำ
เสียงของ
  • Mark Hamill
  • Harrison Ford
  • Carrie Fisher
  • Anthony Daniels
  • Don Francks (ไม่มีในเครดิต)
ผู้ประพันธ์เพลง
ประเทศแหล่งกำเนิดสหรัฐ
ภาษาต้นฉบับอังกฤษ
การผลิต
ผู้อำนวยการผลิต
ผู้อำนวยการสร้าง
  • Joe Layton
  • Jeff Starsh
  • Ken Welch
  • Mitzie Welch
ความยาวตอน98 นาที
บริษัทผู้ผลิต
ออกอากาศ
เครือข่ายCBS
ออกอากาศ
  • 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1978 (1978-11-17)

สตาร์ วอร์ส ฮอลิเดย์สเปเชียล (อังกฤษ: Star Wars Holiday Special)[a] กำกับโดย Steve Binder เป็นภาพยนตร์ในเรื่องแต่งชุดสตาร์ วอร์สที่ผลิตสำหรับออกฉายทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1978 นำแสดงโดยนักแสดงหลักจากฉบับภาพยนตร์รวมทั้งแนะนำตัวละครใหม่เช่นโบบา เฟตต์ ซึ่งจะมีบทบาทในภาพยนตร์ตอนต่อๆ ไป ถือเป็นภาพยนตร์ภาคแยกของสตาร์ วอร์สตอนแรกอย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์ตอนนี้ออกฉายทางโทรทัศน์เพียงครั้งเดียวในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1978 (หนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า) ทางสถานีโทรทัศน์ CBS ตั้งแต่เวลา 20-22 นาฬิกา EST

เนื้อเรื่องหลักของตอนพิเศษทั้งหมด กล่าวถึงตอนที่ชิวแบคคาและฮัน โซโลเดินทางไปยังคาชี้ก ดาวบ้านเกิดของชิวแบคคา เพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งชีวิต (Life Day) แต่ถูกตามล่าโดยสายลับของจักรวรรดิกาแลกติกซึ่งกำลังค้นหาสมาชิกพันธมิตรกบฎบนดาวดวงนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำผู้ชมไปพบกับสมาชิกครอบครัวของชิวแบคคาทั้งสามตน ได้แก่อิตชีผู้เป็นบิดา มัลลาผู้เป็นภรรยา และลัมปี้บุตรชาย อย่างไรก็ดีชื่อเหล่านี้ได้รับการอธิบายในภายหลังว่าเป็น "ชื่อเล่น" โดยทั้งสามมีชื่อจริงว่า อัตติชิกุก มัลลาโตบัก และลุมปาวารู ตามลำดับ

นอกจากนั้นแล้วรายการตอนนี้ยังมีตัวละครอื่นจากเนื้อเรื่องหลัก ได้แก่ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ซีทรีพีโอ อาร์ทูดีทู ดาร์ธ เวเดอร์ และเจ้าหญิงเลอา (ซึ่งร่วมร้องเพลงประกอบหลักของรายการตอนนี้ โดยใช้ดนตรีจากดนตรีธีมหลักของสตาร์ วอร์ส โดยจอห์น วิลเลียมส์) ภาพบางส่วนได้มาจากฟุตเตจที่ไม่ได้ใช้ของการถ่ายทำสตาร์ วอร์ส และมีบางส่วนเป็นภาพยนตร์การ์ตูนผลิตโดยบริษัทเนลวานาจากโตรอนโต ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของตัวละครโบบา เฟตต์ นักล่าเงินรางวัล ฉากในเรื่องบางฉากเป็นฉากในอวกาศและยานอวกาศ รวมถึงมิลเลนเนียม ฟาลคอน และยานพิฆาตดารา บางส่วนที่เป็นรายการโทรทัศน์ในเรื่องและการ์ตูนในเรื่องถ่ายทำที่สถานที่อื่นๆ เช่น แคนตินาบนดาวเคราะห์ทะเลทรายทาทูอีน และดาวเคราะห์มหาสมุทรสีแดงชื่อพานนา เป็นต้น

ภาพยนตร์ตอนนี้ได้เรียบเสียงตอบรับในทางลบอย่างท่วมท้น[2][3] แอนโธนี แดเนียลส์ ผู้แสดงเป็นซีทรีพีโอ ได้กล่าวติดตลกเอาไว้ในสารคดีโปรโมตคอนเสิร์ทสตาร์ วอร์ส อินคอนเสิร์ท ว่า จักรวาลสตาร์ วอร์สนั้น ยังนับรวมถึง "หนังตอนพิเศษวันหยุดสุดห่วยที่ไม่มีใครพูดถึง" นี้ด้วย Nathan Rabin จาก AV Club ได้เขียนไว้ว่า "เป็นการยากที่ผมจะไม่เชื่อว่าภาพยนตร์ตอนพิเศษฯ นี้ ไม่ได้ถูกเขียนบทและกำกับโดยถุงโคเคนที่ทรงสติปัญญา" ทางจอร์จ ลูคัสเอง ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้มาก และมีรายงานว่าเขาไม่ชอบใจกับผลลัพธ์ที่ออกมานัก อย่างไรก็ดี Patty Maloney ผู้รับบทลัมปี้ ได้กล่าวไว้เมื่อ ค.ศ. 2008 ว่ามีการส่งจดหมายอนุมัติการตัดสินใจถ่ายทำมายังกองถ่ายทุกๆ วัน David Acomba เพื่อนร่วมชั้นของลูคัสที่โรงเรียนภาพยนตร์ USC เคยได้รับเลือกให้มากำกับภาพยนตร์ตอนพิเศษนี้ แต่เขาตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ลูคัสนับสนุน

ภาพยนตร์ตอนพิเศษวันหยุดของสตาร์ วอร์สนี้ ไม่เคยได้รับการออกอากาศซ้ำ และไม่เคยถูกผลิตออกเป็นสื่อสำหรับรับชมในบ้านอย่างเป็นทางการ ทำให้มีสถานภาพเป็นตำนานทางวัฒนธรรม เนื่องจากการมีอยู่ของมันแทบจะถือเป็นของ "ใต้ดิน" โดยมีการเผยแพร่ภาพยนตร์ตอนพิเศษนี้ผ่านวิดีโอที่อัดจากการออกฉายทางโทรทัศน์โดยแฟนๆ ที่รับชม ซึ่งต่อมาก็ได้รับการทำซ้ำลงบนสื่อดิจิทัล เผยแพร่ผ่านอินเตอร์เนทและแผ่นเถื่อนต่างๆ

เนื้อเรื่อง

[แก้]

ในวันแห่งชีวิต (Life Day) ชิวแบคคาและฮัน โซโลเดินทางไปยังดาวเคราะห์คาชี้กเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของชิวแบคคา ระหว่างทางทั้งสองถูกไล่ตามโดยยานพิฆาตดารา แต่ก็ได้หลบหนีเข้าไปยังไฮเปอร์สเปซได้สำเร็จ

ในขณะเดียวกัน บนดาวเคราะห์คาชี้ก ครอบครัวของชิวแบคคากำลังเตรียมต้อนรับการกลับมาของเขา มัลลาผู้เป็นภรรยาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสแกนหายานอวกาศในบริเวณใกล้เคียงด้วยหวังจะพบยานมิลเลนเนียม ฟาลคอน แต่ก็ไม่พบ มัลลาจึงติดต่อลุค สกายวอล์คเกอร์ซึ่งกำลังซ่อมยานรบเอกซ์วิงร่วมกับอาร์ทูดีทูอยู่ ลุคบอกเธอว่าเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น มัลลาจึงติดต่อซอน ดานน์ (Saun Dann) พ่อค้าท้องถิ่นชาวมนุษย์ เขาบอกมัลลาอย่างระมัดระวังคำพูดว่าฮันและชิวแบคคากำลังเดินทางมาและน่าจะถึงในไม่ช้า จากนั้นมัลลาจึงพยายามจัดเตรียมอาหาร โดยดูคำแนะนำจากรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการทำอาหาร โดยมีผู้ดำเนินรายการเป็นแม่ครัวสี่แขนชาวต่างดาว ชื่อเชฟกอร์มานดา (Chef Gormaanda)

ซอน ดานน์เดินทางมาถึงบ้านพร้อมกับของขวัญวันแห่งชีวิตสำหรับทุกคน หนึ่งในนั้นถือโปรแกรมเวอร์ชวลเรียลลิตี้ชื่อ "แฟนตาซี" สำหรับอิตชี ย้อนกลับไปที่ยานฟาลคอน ชิวแบคคาและฮันเดินทางพ้นจากไฮเปอร์สเปซมาจนใกล้ถึงดาวเคราะห์คาชี้ก ฮันสังเกตว่ามีคนของจักรวรรดิอยู่ในพื้นที่มากผิดปกติจึงลงจอดที่พื้นที่ที่ไม่มีการเฝ้าระวังทางด้านเหนือ เมื่อยานเข้ามาถึงชั้นบรรยากาศ ลัมปี้ได้ยินเสียงของยานอวกาศ มัลลาคิดว่าฮันและชิวอี้เดินทางมาถึงแล้วจึงเปิดประตู แต่กลับพบเจ้าพนักงานของจักรวรรดิและทหารสตอร์มทรูปเปอร์สองนายที่ประตู

เจ้าหน้าที่จักรวรรดิบุกเข้ามาในบ้าน และสั่งให้ค้นหาตัวชิวแบคคา ระหว่างนั้นซอนและวูกีอื่นๆ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจด้วยอาหารและกล่องมิวสิกวิดีโอของมัลลา (ซึ่งมีวิดีโอของวงดนตรีเจฟเฟอร์สัน สตาร์ชิพ) เมื่อดนตรีจบลง หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้สั่งให้ค้นหาต่อ และได้สั่งมัลลาให้คอยดูลัมปีเอาไว้ไม่ให้มารบกวนระหว่างที่เขากำลังค้นห้อง ลัมปี (และผู้ชม) จึงต้องนั่งดูการ์ตูน เกี่ยวกับการผจญภัยของบิดาของเขา

ระหว่างการ���้นหาเครื่องรางวิเศษอันหนึ่ง ยานมิลเลนเนียม ฟาลคอนตกลงบนดวงจันทร์มหาสมุทรชื่อว่าพานนา ตัวละครหลักทุกคนอยู่บนยาน พวกเขาเจอกับโบบา เฟตต์ซึ่งได้ช่วยชีวิตลุคเอาไว้จากสัตว์ประหลาดยักษ์ และอ้างตนว่าต้องการช่วยเหลือเหล่ากบฎ ทั้งหมดขึ้นยานฟาลคอน ฮันติดเชื้อไวรัสจากเครื่องรางมีผลทำให้นอนหลับ ลุคก็ติดไวรัสเช่นกัน เฟตต์และชิวอี้เดินทางไปยังนครพานนาเพื่อหายารักษา เมื่อไปถึงเมืองก็พบว่าจักรวรรดิเข้าครอบครองเมืองแล้ว เฟตต์บอกให้ชิวอี้รอก่อน แล้วเขาจึงไปติดต่อกับดาร์ธ เวเดอร์ บนยานฟาลคอน ขณะที่ซีทรีพีโอกำลังดูแลฮันและลุค อาร์ทูอีทูดักจับสัญญาณการสื่อสารระหว่างเวเดอร์กับเฟตต์ได้ เฟตต์และชิวอี้หลบหนีจากพวกจักรวรรดิกลับมายังฟาลคอนพร้อมยารักษาได้สำเร็จ หลังจากที่ทุกคนตื่นและหายจากไวรัสแล้วก็ได้รู้ว่าที่แท้เฟตต์เป็นพวกจักรวรรดิ เขาใช้เจ็ตแพ็คหลบหนีไปพร้อมสัญญาว่าจะได้เจอกันอีก จากนั้นพวกพระเอกเดินทางกลับฐานทัพกบฎด้วยยานฟาลคอน

ลัมปีวางแผนจะสร้างเครื่องแปลภาษาที่สามารถหลอกเจ้าหน้าที่จักรวรรดิให้กลับไปยังฐานทัพได้ด้วยการปลอมเสียงเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้เขาต้องดูคู่มือการใช้เสียก่อน ซึ่งคู่มือนี้ถูกนำเสนอโดยหุ่นยนต์ (รับบทโดย Korman) ที่ทำงานผิดเพี้ยนไม่เป็นเรื่องเป็นราว ขณะที่พวกจักรวรรดิกำลังค้นหาอยู่ที่ชั้นล่างนั้นเอง จอภาพในห้องนั่งเล่นก็ทำงานขึ้นเอง และประกาศว่าทาทูอีนกำลังตกอยู่ภายใต้คำสั่งโดยจักรวรรดิให้จำกัดการออกนอกเคหสถานเนื่องจากมี "กองกำลังต่อต้าน" วิดีโอนี้บังคับให้ทหารจักรวรรดิทุกคนต้องดู และเนื้อหาส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับแอคเมนา เจ้าของร้านแคนทินาที่มอส ไอสลีย์

อ้างอิง

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. มีการรวม 'The' ในชื่อรายการตอนเปิดเรื่องและในบางบทความ[1]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "The Screening Room". TV Guide. Local Programs, Nov. 11–17: A-5. 1978.
  2. Berman, John; Ted Gerstein (December 20, 2007). "Holiday Specials Gone Bad; The 'Star Wars Holiday Special' Flop Lives On". ABC News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2016. สืบค้นเมื่อ July 17, 2019.
  3. David Hofstede (2004). What Were They Thinking? The 100 Dumbest Events in Television History. Back Stage Books. pp. 204–206. ISBN 0-8230-8441-8.

อ่านเพิ่ม

[แก้]
  • Plesset, Ross (1998). "The Star Wars Holiday Special". Ultra Filmfax. 69–70.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]