ข้ามไปเนื้อหา

07 โชว์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
07 โชว์
ประเภทวาไรตี้,ซิทคอม, เกมโชว์
พัฒนาโดยบริษัท เจเอสแอล จำกัด
พิธีกรสัญญา คุณากร
สุวนันท์ คงยิ่ง
สันติสุข พรหมศิริ
เชษฐวุฒิ วัชรคุณ
วรรธนะ กัมทรทิพย์
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
การผลิต
ความยาวตอน2 ชั่วโมง (ยุคแรก)
1 ชั่วโมง 15 นาที (ยุคหลัง)
ออกอากาศ
เครือข่ายสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ออกอากาศมีนาคม พ.ศ. 2540 –
17 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การแสดงที่เกี่ยวข้อง
วิก 07
ศูนย์ 07

07 โชว์ เป็น รายการสดประเภทวาไรตี้,ซิทคอม,เกมโชว์ทางโทรทัศน์ ของบริษัท เจเอสแอล จำกัด ที่ทำรายการให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

ประวัติ

[แก้]

รายการ "07 โชว์" สร้างโดย เจเอสแอล ออกอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 โดยเสนอเป็นประจำทุกเย็นวันอาทิตย์ ทางช่อง 7 สี โดยเป็นรายการสดประเภทวาไรตี้โชว์ ที่เสนอเรื่องเพลง ละคร ข่าวดารา และเกมการแข่งขัน ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนาน ตื่นเต้น เข้าถึงผู้ชมได้ง่าย ลักษณะการถ่ายทำใช้ห้องส่งของเจเอสแอล แล้วทำการถ่ายทอดสดผ่านสถานีไปยังผู้ชมทั่วประเทศ รายการนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังได้สร้างศิลปินนักร้อง รวมทั้งนักแสดงมากมาย จนถึงปัจจุบัน

รายการออกอากาศครั้งสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยเปลี่ยนเป็นรายการ กิ๊กดู๋ (ภายหลังใช้ชื่อว่า กิ๊กดู๋ สงครามเ��ลงเงินล้าน) ร่วมกับบริษัท ทริปเปิ้ลทู จำกัด ซึ่งเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2553 รวมระยะเวลาการออกอากาศได้ 23 ปี (หากเริ่มนับจากรายการ วิก 07 และ ศูนย์ 07 อย่างต่อเนื่อง)

ระยะเวลาออกอากาศ

[แก้]
  • ปี 2540 - 2541 วันอาทิตย์ เวลา 15.20 น. - 17.20 น.
  • ปี 2541 - 2543 วันอาทิตย์ เวลา 15.45 น. - 17.30 น.
  • ปี 2544 - 2549 วันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. - 17.30 น.
  • ปี 2550 - 17 ต.ค.2553 วันอาทิตย์ เวลา 15.45 น. - 17.00 น.

พิธีกร

[แก้]

พิธีกรหลัก

[แก้]

พิธีกรรับเชิญ

[แก้]

นักแสดงประจำรายการ

[แก้]

ช่วงต่าง ๆ ของรายการ

[แก้]

ทายผลโหวตกับรีจอยส์

[แก้]

ในช่วงนี้ผู้สนับสนุนคือแชมพูรีจอยส์ กติกาช่วงแรกคือ ผู้ชมจากทางบ้านสามารถโทรศัพท์เข้ามาร่วมสนุกได้ในช่วงนี้ (ซึ่งทางรายการจะเปิดโอกาสให้โทรเข้ามา หลังจากพักโฆษณาของช่วงนี้) จากนั้นจะได้รับการติดต่อกลับจากทางรายการ และเมื่อได้รับการติดกลับไปแล้ว ผู้โชคดีมีสิทธิ์เข้ามาร่วมรายการที่กำลังถ่ายทอดสด และรับเงินรางวัลไปก่อน 5,000 บาท จากนั้นผู้เข้าแข่งขันจะต้องทายให้ถูกว่าพิธีกรทั้ง 2 คน ที่ได้มาร้องเพลงคือใครบ้าง (จากการเปิดแผ่นป้ายเจอ) ต่อมาได้เปลี่ยนกติกาเล็กน้อย คือ ให้ทายว่าทีมที่ชนะคือทีมหมายเลขใด จากนั้นให้เลือกแผ่นป้ายว่าจะได้คูณเงินรางวัลที่มีอยู่ไปอีกกี่เท่า โดยจะมีเลข 2 กับ 3 ซึ่งถ้าทายทีมที่ชนะได้ถูก เงินรางวัลที่มีอยู่จะถูกคูณตามจำนวนที่เปิดเจอ แต่ถ้าทายผิดจะได้รับเงินรางวัลที่มีอยู่เดิม 5,000 บาท กลับบ้านไป

ดวลไมค์ดวลมุก

[แก้]

จะเป็นการนำเสนอความสนุกสนานผ่าน 4 นักแสดงประจำช่วงนี้ อาทิ จาตุรงค์ มกจ๊ก, โก๊ะตี๋ อารามบอย, ยาว อยุธยา และ ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม โดยในแต่ละสัปดาห์จะมีแขกรับเชิญมาร่วมโชว์และพูดคุยต่าง ๆในประเด็นที่น่าสนใจ และจะเน้นมุขสดเป็นส่วนใหญ่ โดยจะหยิบเหตุการณ์ในปัจจุบันมานำเสนอแบบทันด่วน ซึ่งการพูดคุยหรือการโชว์นั้นต้องอาศัยทั้งไหวพริบและปฏิภาณ

โชว์ฮอต คนฮิต

[แก้]

จะเป็นช่วงการแสดงโชว์และพูดคุยสัมภาษณ์จากศิลปินของค่ายต่าง ๆ

มิวสิคแอ็คชั่นโชว์

[แก้]

ก่อนจะร้องเพลง จะให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกป้ายมา 1 ป้าย จาก 3 ป้าย เพื่อเลือกเรียงลำดับการร้องเพลง จากนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องร้องเพลงที่เลือกจากป้ายนั้นมา เพื่อขอคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านที่กำลังรับชมอยู่ในขณะนั้นโทรศัพท์โหวตเข้ามา เมื่อร้องครบทั้ง 3 คนแล้ว พิธีกรจะประกาศผลคะแนนโหวต ถ้าผู้แข่งขันคนไหนมีคะแนนโหวตน้อยที่สุด ตกรอบ ทันที ส่วนอีก 2 คนที่เหลือ จะเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนคนที่ตกรอบแรกผู้ชมทางบ้านที่ร่วมโหวตเข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท (ในช่วงแรกที่เริ่มเกมนี้ หลังจบโชว์ร้องเพลงทั้ง 3 คน พิธีกรจะเปิดให้ผู้ชมในห้องส่ง ส่งเสียงเชียร์เพื่อวัดระดับเสียงเป็นคะแนนให้กับผู้แข่งขันคนนั้น โดยคะแนนในส่วนนี้จะไปรวมกับคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์โหวตเข้ามา ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็นระบบโหวตกดปุ่มไฟแดงไฟเขียวเป็นคะแนนให้กับผู้แข่งขันคนนั้น ถ้าไฟเขียวคือเข้ารอบ แต่ถ้าไฟแดงคือตกรอบ)

  • ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2542 ถึงกลางปี พ.ศ. 2543 ได้เพิ่มช่วงพิเศษ "พบโชค พบฟาบูโลโซ" ซึ่งเป็นการแจกรางวัลพิเศษ โดยจาตุรงค์และโก๊ะตี๋จะไปค้นหาผู้โชคดีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านยี่ห้อ "ฟาบูโลโซ" ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักในช่วงนี้ ซึ่งผู้โชคดีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะต้องเลือกแผ่นป้าย 3 แผ่นป้าย เพื่อเลือกหมายเลขเชียร์ผู้เข้าแข่งขันที่กำลังร่วมรายการ หากหมายเลขที่เลือกมาทำคะแนนโหวตได้สูงที่สุด ผู้โชคดีจะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท แต่ถ้าคะแนนโหวตน้อยกว่า ผู้โชคดีจะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
    • ในช่วงปี พ.ศ. 2544 จนถึงรายการยุติการออกอากาศ ได้ยกเลิกระบบเปิดแผ่นป้าย
  • ในช่วงปี 2545 - 2546,พ.ศ. 2547 - 2548 และ พ.ศ. 2551-2553 ได้อยู่ในช่วงรอบตัดสินและทดแทนรอบแอ็คชั่นผจญภัย

แอ็คชั่นผจญภัย (รูปแบบแรกและรูปแบบที่ 5)

[แก้]

ในรอบนี้ผู้ที่เข้ารอบทั้ง 2 คนจะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักทั้งหมด 12 ป้าย โดยหลังแผ่นป้ายจะเป็นเกมต่างๆ ถ้าเปิดเจอแผ่นป้ายที่เป็นเกมก็เล่นเกมตามที่ป้ายบอก ภายในเวลา 60 วินาที เมื่อคนใดคนหนึ่งเล่นเกมเสร็จก่อนหมดเวลาจะถือว่าชนะทันที หรือเมื่อหมดเวลา หากผู้แข่งขันคนไหนทำผลงานได้ดีกว่าก็จะได้คะแนนในเกมนี้ไป โดยผู้ชนะจะได้ 100 คะแนน ส่วนผู้แพ้ได้ 50 คะแนน ถ้าผู้แข่งขันคนไหนชนะทั้ง 2 เกม ก็จะได้คะแนนสูงสุดรวม 200 คะแนน และได้เข้ารอบแจ็คพอตไป ส่วนผู้ที่มีคะแนนน้อยกว่าตกรอบทันที พร้อมกับได้รับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท ส่วนผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์โหวตเข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 คน ชนะ2เกมจะได้เข้าไปรอบแจ๊คผอตทั้ง2คน

ภายหลังในช่วงปรับฉากใหม่ ก็ได้นำเกมนี้กลับมาเล่นอีกครั้ง แต่ปรับกติกาเล็กน้อย คือ จะมีแผ่นป้าย 18 ป้าย ในแต่ละฝั่ง โดยฝั่งซ้ายเป็นป้ายจะเป็นเกมต่าง ๆ และฝั่งขวาเป็นเงินรางวัล 5,000 บาท 5 ป้ายและป้ายผู้สนับสนุนหลักอีก 4 ป้าย (ผู้สนับสนุนในรอบนี้คือ ผงซักฟอกแอทแทค - ��้ำยาทำความสะอาดมาจิคลีน และผงซักฟอกบิ๊กตามลำดับ) ถ้าหากว่าเจอเกมตามป้ายก็เล่นเกมตามป้าย แล้วถ้าคนใดคนหนึ่งเล่นเสร็จก่อน คนนั้นจะเป็นผู้ชนะและจะมีสิทธิ์เปิด 2 ป้าย และถ้าใครสะสมเงินรางวัลเยอะที่สุด คนนั้นจะเข้ารอบแจ็คพอตทันที ถ้าทั้ง2คน สะสมเงินรางวัลสูงสุดเท่ากัน ทั้ง2คนผ่านเข้ารอบแจ๊คผอต

  • เมื่อผู้แข่งขันที่เข้ารอบนี้ถ้าเป็นสุภาพสตรี พิธีกรจะเพิ่มจำนวนโอกาสชนะในแต่ละเกมให้ง่ายขึ้น เพื่อลดในการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างการแข่งขัน
    • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 - 2541 และ พ.ศ. 2544 - 2545

แอ็คชั่นผจญภัย (รูปแบบที่ 2)

[แก้]

ในรอบนี้จะมีกุญแจในกรง 16 ดอก และตู้ในกรง 16 ตู้ ผู้แข่งขันที่เข้ารอบทั้ง 2 คน เข้าไปแข่งทีละคนภายในเวลา 90 วินาที โดยด่านแรกให้ไปเปิดแผ่นหาแท่งผลึก จากนั้นให้ไปที่ปุ่มเหยียบไฟ และเมื่อเหยียบไฟครบจนได้ยินเสียงสัญญาณแล้ว ก็จะเข้าไปหยิบกุญแจเพื่อไขตู้เปิดหาแท่งผลึกเพื่อไขออก (โดยการหากุญแจและไขกุญแจนั้นต้องทำให้ทันเวลาที่กำหนด) ซึ่งถ้าใครเจอกุญแจแล้วไขประตูออกถึงเส้นชัยของคนใดคนหนึ่งเกมก่อนเปิดป้ายของคนใดคนหนึ่งก่อนเวลาหมด เกมจะหยุดลงทันที จากนั้นจะมานับจำนวนแท่งผลึกที่หยิบได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้แข่งขันคนแรกเปิดตู้ได้แท่งผลึกมา 6 แท่ง ผู้แข่งขันคนนั้นมีสิทธิ์ได้เปิดป้ายถึง 6 แผ่นป้าย แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้แข่งขันอีกคนเปิดตู้เจอแท่งผลึกในจำนวนที่น้อยกว่า ผู้แข่งขันคนนั้นก็จะได้เปิดป้ายน้อยลงตามจำนวนแท่งผลึกที่ได้รับมา หลังจากนั้นจะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนทั้งหมด 12 ป้าย ซึ่งจะมีเลข 0 (4 ป้าย) เงินรางวัล 3,000 บาท (4 ป้าย) และเงินรางวัล 5,000 บาท (4 ป้าย) ซึ่งผู้แข่งขันคนใดสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุด จะได้เข้าไปเล่นในรอบแจ็คพอตทันที ส่วนผู้ที่ตกรอบจะได้รับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท กลับบ้าน และผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์โหวตเข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

  • ผู้สนับสนุนหลักในรอบนี้คือผงซักฟอกบิ๊ก
    • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี2541-2542

แอ็คชั่นผจญภัย (รูปแบบที่ 3 และ 4)

[แก้]

ในรอบนี้ผู้แข่งขัน 2 คนที่เข้ารอบ จะต้องเลือกป้าย "บิ๊ก" ซึ่งมีให้เลือก 2 ป้าย คือ ขนาด 5,000 กรัม และขนาด 200 กรัม เพื่อให้เลือกว่าจะได้ลูกบอลสีอะไร โดยที่ด้านหลังของแผ่นป้าย จะมีรูปของลูกบอลสีน้ำเงินหรือสีส้มอย่างละ 1 สี หลังจากเลือกแผ่นป้ายแล้ว จะมีลูกบอลในอ่าง 32 ลูก โดยจะเป็นลูกบอลสีน้ำเงินและสีส้ม อย่างละ 16 ส่วนลูกที่เหลือจะเป็นสีอื่นที่เสริมเข้ามา โดยให้ผู้เข้าแข่งขันลงไปที่อ่างบอลเพื่อหยิบลูกบอลหลังจากที่เปิดแผ่นป้ายก่อนเล่นเกม จากนั้นผู้แข่งขันจะต้องปาลูกบอลจากอ่างเพื่อเข้าช่องตามแผ่นป้าย โดยแท่นแผ่นป้ายจะหมุนไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีเวลาในการเล่น 90 วินาที ถ้าปาลงช่องแผ่นป้ายไหน จะมีผลต่อการเปิดป้ายนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ปาเข้า 8 ช่อง ได้เปิด 8 แผ่นป้าย ปาเข้า 16 ช่อง ได้เปิด 16 ป้าย เป็นต้น แต่ถ้าผู้แข่งขันทั้ง 2 คน ปาลูกบอลเข้าช่อง 16 ช่องเท่ากัน เกมก่อนเปิดป้ายเงินรางวัลจะหยุดลงทันที โดยหลังแผ่นป้ายผู้สนับสนุนรายการ 12 ป้าย จะมีเงินรางวัล 3,000 บาท และ 5,000 บาท อย่างละ 7 ป้าย และป้ายผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งมีค่าถึง 10,000 บาท 2 แผ่นป้าย ผู้แข่งขันท่านไหนสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุด จะผ่านเข้าสู่รอบแจ็คพอตทันที แต่ถ้าผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 คน มีเงินรางวัลเท่ากันหลังจบเกมส์ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 คน จะผ่านเข้ารอบแจ๊คพอต ส่วนผู้ที่ตกรอบจะได้รับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท และผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์โหวตเข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

  • ผู้สนับสนุนหลักในรอบนี้คือผงซักฟอกบิ๊ก

ต่อมาได้มีการเปลี่ยนกติกาและฉากบางส่วน โดยการยกเลิกการเปิดแผ่นป้ายหาสีลูกบอลก่อนเล่นเกม และเปลี่ยนสีลูกบอลจากสีน้ำเงินและสีส้มเป็นสีน้ำเงินและสีเขียว ลดจำนวนลูกบอลจาก 32 ลูก เป็น 16 ลูกเปลี่ยนจากบอลสีอื่นในอ่างเป็นโฟมในอ่างแทน เพิ่มอุโมงค์และเปลี่ยนจากแท่นแผ่นป้ายหมุนเป็นกำแพงแผ่นป้าย แต่กติกาที่เหลือยังเหมือนเดิม คือ การปาบอลเข้าช่องของแผ่นป้าย โดยจะมีลูกบอลในอ่าง 16 ลูก แบ่งเป็นสีน้ำเงินและสีเขียว อย่างละ 8 ลูก โดยให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกว่าจะเอาสีฟ้าหรือสีเขียว เมื่อเลือกเสร็จก็จะเตรียมตัวลงไปที่อ่างโฟมเพื่อหยิบลูกบอล จากนั้นให้ลอดอุโมงค์ เมื่อถึงที่แท่นแผ่นป้ายแล้ว ให้หยิบลูกบอลแล้วปาใส่ช่อง ภายในเวลา 2 นาที โดยจะวัดจากการปาลูกบอลเข้าช่อง ยกตัวอย่างเช่น ปาเข้า 8 ช่อง ได้เปิด 8 แผ่นป้าย ถ้าผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 คน ปาบอลเข้าช่อง 8 ช่องเท่ากัน เกมก่อนเปิดป้ายเงินรางวัลจะหยุดลงทันที โดยหลังแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักมีทั้งหมด 16 ป้าย แบ่งเป็นเลข 0 (4 ป้าย) เงินรางวัล 3,000 บาท (4 ป้าย) เงินรางวัล 5,000 บาท (4 ป้าย) และป้ายผู้สนับสนุนหลักซึ่งมีค่าถึง 10,000 บาท (4 ป้าย) ผู้แข่งขันท่านไหนสะสมเงินรางวัลได้มากที่สุด จะผ่านเข้าสู่รอบแจ็คพอตทันที ส่วนผู้ที่ตกรอบจะได้รับเงินรางวัลปลอบใจ 20,000 บาท และผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์เชียร์กันเข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

  • ผู้สนับสนุนหลักในรอบนี้คือผงซักฟอกแอคแทค
    • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 - 2544

รอบตัดสิน (รูปแบบปี พ.ศ. 2546 - 2547)

[แก้]

โดยในรอบนี้ผู้สนับสนุนในรอบนี้คือ ถั่วลันเตาอบกรอบ สแน็คแจ๊ค โดยมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนอยู่ 18 ป้าย ซึ่งมีเลข 0 - 16 อย่างละ 1 ป้าย และป้ายแจ็คพอต 1 ป้าย โดยให้แต่ละทีมเลือกป้ายครั้งละ 1 ป้าย เพื่อหาคะแนน ทีมไหนทำคะแนนได้เยอะกว่าเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าในกรณีเจอป้ายแจ็คพอต ทีมนั้นจะชนะโดยอัตโมมัติทันที ทีมไหนชนะครบ 2 รอบ จะเข้าสู่รอบแจ็คพอตไปเลย

  • ในรอบนี้ ทีมไหนมีคะแนนโหวตทางบ้านเยอะกว่า จะมีสิทธิ์เปลี่ยนป้ายได้ 1 ครั้ง ซึ่งจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้แล้วแต่ผู้แข่งขันพิจารณา


รอบตัดสิน (รูปแบบปี พ.ศ. 2549 - 2550)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะผู้สนับสนุนหลักอยู่ 14 ป้าย โดยมีรูปหน้าพิธีกรทั้ง 5 คน คนละ 3 - 4 ป้าย ในแต่ละสัปดาห์ (ยกเว้นรูปหน้าคุณสัญญา ซึ่งมีเพียงป้ายเดียว) โดยแต่ละคนมี 300, 500, 1,000 และ 10,000 คะแนน (ผู้สนับสนุนในรอบนี้คือ รถจักรยานเทอร์โบ ต่อมาเปลี่ยนเป็น แป้งเบบี้มายด์ ตามลำดับ) โดยให้ทีมดารารับเชิญเลือกทีมละ 1 ป้าย เปิดป้ายเจอพิธีกรคนไหน คนนั้นต้องเตรียมตัวร้องเพลงทันที (ในกรณีที่เปิดเจอป้ายติดลบ คะแนนโหวตของทีมพิธีกรจะถูกลบจากแผ่นป้ายที่เปิดไว้ แต่ในกรณีที่เจอป้าย 10,000 คะแนน ทีมที่เปิดเจอจะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ไปก่อนเพื่อเป็นรางวัลสะสมในทีม)

รอบแจ็คพอต (รูปแบบแรก)

[แก้]

ในรอบนี้จะมีเหรียญจำนวน 20 เหรียญในตู้น้ำ ซึ่งเป็นเหรียญสีทองในช่วงแรก ต่อมาเปลี่ยนเป็นเหรียญรูปรีจอยส์สีเขียว ส่วนที่เหลือจะเป็นเหรียญ "07" สีเขียวเช่นกัน (แต่จะซีดกว่า) โดยให้ผู้แข่งขันลงไปดำน้ำ งมหาเหรียญภายในเวลา 60 วินาที โดยเมื่อเริ่มจับเวลา ระดับน้ำในตู้จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นจนเต็มเมื่อหมดเวลา จากนั้นเมื่อหาเหรียญเสร็จ พิธีกรจะทำการนับเหรียญ โดยเหรียญที่หยิบมาได้นั้นที่ไม่ใช่ลาย 07 มีค่าเหรียญละ 3,000 บาท ถ้าผู้แข่งขันสามารถเก็บเหรียญได้ครบ 20 เหรียญ เกมจะหยุดลงทันทีและจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาทไปเลย แต่ถ้าหากไม่ถึง 20 เหรียญจะได้รับเงินรางวัลเท่าที่ทำได้ โดยถ้าเงินรางวัลในรอบที่แล้วทำได้มากกว่าในรอบนี้ ก็จะได้รับเงินรางวัลจากรอบที่แล้วไป ส่วนผู้ชมทางบ้านที่โทรศัพท์ร่วมเชียร์เข้ามา จะได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท

  • ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชคในระยะแรก เป็นผลิตภัณฑ์ทเวลฟ์พลัสร่วมกับปลาสวรรค์ตราทาโร่ ระยะที่ 2 เป็นแชมพูรีจอยส์กับปลาสวรรค์ตราทาโร่ ระยะที่ 3 เป็นแชมพูรีจอยส์ร่วมกับแป้งเด็กแคร์ ระยะที่ 4 เป็นแชมพูรีจอยส์ร่วมกับผงคนอร์รสทิพ ระยะที่ 5 เป็นนมข้นหวานตราคาร์เนชั่นร่วมกับแชมพูรีจอยส์ และวาระสุดท้ายแชมพูรีจอยส์เป็นผู้สนับสนุนหลัก
    • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 - 2545

นอกจากนี้ยังเพิ่มรางวัลพิเศษให้กับผู้ชมทางบ้านที่ส่งชิ้นส่วนมาร่วมสนุก เช่น ปลาสวรรค์ตราทาโร่ ต่อมาเป็นผงคนอร์รสทิพ ในปี พ.ศ. 2541 ซึ่งจะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 9 ป้าย โดยแบ่งเป็นน้ำหนักทองคำต่าง ๆ ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 - 2543 ได้ยกเลิกช่วงเปิดป้ายมอบโชค และกลับมาใช้ช่วงเปิดป้ายอีกครั้งในปี พ.ศ. 2543 - 2544 จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 6 ป้าย ผู้แข่งขันต้องเลือกแผ่นป้ายมา 1 ป้าย เปิดได้เท่าไหร่ ผู้โชคดีที่จับชิ้นส่วนขึ้นมา และได้รับรางวัลนั้นไป (ในกรณีที่ผู้โชคดีทายผิด) ในปี พ.ศ. 2542 - 2544 ก่อนจับรางวัล ผู้แข่งขันจะต้องเลือกป้ายจาก 2 แผ่นป้ายว่า จะจับชิ้นส่วนของกองชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ไหน โดยมีป้ายหมูและไก่อย่างละ 1 ป้าย ภายหลังเปลี่ยนเป็นวิธีการเลือกเป็นไขลูกบอลจากตู้ ในช่วงปี พ.ศ. 2542 - 2543 หากชิ้นส่วนของผู้ชมทางบ้านที่ส่งเข้ามาทายจำนวนเหรียญได้ตรงกับผู้แข่งขันที่ทำไว้ จะได้รับทองคำหนัก 10 บาท ไปทันที แต่ถ้าทายไม่ตรงกันจะได้รับทองคำหนัก 1 บาท ไปแทน (โดยจำนวนรางวัลน้ำหนักทองคำจะเพิ่มไปเรี่อย ๆ จนครบ 100 บาท หรือจนกว่าจะมีคนทายถูกในสัปดาห์นั้น ๆ)

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 2)

[แก้]

ในรอบนี้ให้ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบแจ็กพอตทั้ง 3 คน ช่วยกันโยกปั๊มน้ำใส่กระบอกให้ได้มากที่สุดภายในเวลา 60 วินาที โดยตัวกระบอกมีจะมีระดับน้ำอยู่ทั้งหมด 6 ขีด ซึ่งจะมีตั้งแต่ระดับ 3,000 บาท / 5,000 บาท / 10,000 บาท / 30,000 บาท / 50,000 บาท และ 100,000 บาท ถ้าทำถึงขีดที่ 6 เกมจะหยุดลงและจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาทหากรอบที่แล้วได้300000฿แล้วแจ็คผอตแตกในรอบสุดท้ายจะได้รับรางวัลรวมทั้งหมด400000฿ แต่ถ้าหากหมดเวลาในระดับน้ำเท่าไหร่ ก็จะได้รับเงินเท่าที่สะสมกลับบ้านไป ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชคคือแชมพูรีจอยส์และนมข้นหวานตรามะลิ ต่อมาเป็นแชมพูรีจอยส์ร่วมกับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มคาลพิโก้ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อคาลพิส แลตโตะ)

  • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 - 2546

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 3)

[แก้]

ในรอบให้ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 คน ที่เข้ารอบแจ็คพอตจะส่งตัวแทนมา 3 คน ให้นั่งม้าหมุน โดยทีมงานจะหมุนตัวม้าหมุนจนครบ 10 รอบ โดยรอบแรกหมุน 30 วินาที ส่วนรอบที่ 2 ไปเก็บสลากที่มีสัญลักษณ์ rejoice กลางอากาศ ภายในเวลา 60 วินาที รวมทั้ง 2 รอบ ผู้แข่งขันต้องทำได้ภายในเวลา 90 วินาที ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 เก็บสลากตราสัญลักษณ์ rejoice จนครบ 30 ใบ โดยแต่ละใบมีมูลค่าใบละ 3,000 บาท เกมจะยุติลงและจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาททันที แต่ถ้าหากขับไม่ถึง 30 ใบ ก็จะได้รับเงินเท่าที่ทำได้กลับบ้านไป

  • ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชคคือแชมพูรีจอยส์ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวไทย ต่อมาเป็น รีจอยส์ร่วมกับไฟน์ไลน์ และวาระสุดท้ายเป็น รีจอยส์ร่วมกับนมตราหมี
  • เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 - 2547

รอบแจ็กพอต (รูปแบบที่ 4)

[แก้]

กติกาคือ ผู้แข่งขันหมุนต้องวงล้อของผลิตภัณฑ์รีจอยส์ โดยก่อนที่จะเล่น ให้ทีมที่ชนะเลือกก่อนว่าจะเอาเป็นแชมพูหรือครีมนวดผม ซึ่งมีทั้งหมด 6 สูตร (ตามที่ผลิตในขณะนั้น) เมื่อเลือกแล้วต้องหมุนวงล้อเพื่อลุ้นว่าตกช่องไหน ยกตัวอย่างเช่น เลือกครีมนวดผมรีจอยส์ ก็ต้องไปตกที่ช่องครีมนวดผมรีจอยส์ของสูตรไหนก็ได้ หากตกช่องที่เลือกไว้ ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ทันที แต่ถ้าไม่ตรงจะได้รับเงินรางวัลที่สะสมมาในรอบก่อนหน้านั้น

รอบแจ๊คพอต (รูปแบบ พ.ศ. 2551 - 2552)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักอยู่ 14 ป้าย ซึ่งมีเลข 1 - 5 สลับกันอยู่ 13 ป้าย และป้ายพิเศษ 1 ป้าย ซึ่งเป็นเงินรางวัล 10,000 บาท และสามารถใช้แทนเลขไหนก็ได้ (ผู้สนับสนุนในขณะนั้นคือ กาแฟเนเจอร์กิ๊ฟ) โดยต้องทายว่า ป้ายต่อไป เล็กกว่าหรือใ��ญ่กว่า (ซึ่งกติกานี้ได้นำมาจากรูปแบบรายการ "พลิกล็อค") ถ้าทายถูกจะได้ป้ายละ 10,000 บาท หากทายถูกครบ 5 ป้าย จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ซึ่งมีเงินรางวัลสูงสุดคือ 110,000 บาท แต่ถ้าหากตอบผิดเกมจะยุติลงและรับเงินรางวัลเท่าที่ทำได้

รอบแจ๊คพอต (รูปแบบปี พ.ศ. 2552 - 2553)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักอยู่ 14 ป้าย โดยมีป้ายพีธีกร (ยกเว้นคุณสัญญา ซึ่งต่อมาได้เพิ่มเป็น 1 ป้าย) และผู้ชนะจากการประกวด สู่ฝันปั้นดาวอีก 3 คน เป็น 7 คน ต่อมาเป็นเพิ่มเชาเชาและเพิ่มเป็น 16 แผ่นป้าย (ผู้สนับสนุนในขณะนั้นคือ กาแฟเนเจอร์กิ๊ฟ) โดยให้ดารารับเชิญทั้ง 2 ทีมเลือกป้าย โดยรอบแรก เลือกแถวบน และรอบสอง เลือกแถวล่าง จนครบ 4 คนในแต่ละรอบ โดยต้องเล่นเกมให้ชนะทีมพิธีกร ถ้าชนะในแต่ละรอบได้ ก็จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

รอบเปิดป้ายสะสมเงินรางวัล/รอบเปิดป้ายตกรอบ

[แก้]

(รูปแบบปี พ.ศ. 2545 - 2546)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะผู้สนับสนุนอยู่ 18 ป้าย (ผู้สนับสนุนในรอบนี้คือผงซักฟอกบิ๊ก) มีโล้โก้ผงซักฟอกบิ๊กอยู่ 15 ป้าย และตัวหยุด 3 ป้าย โดยทีมผู้ชนะจะต้องผลัดกันเลือกให้เจอป้ายโล้โก้ผงซักฟอกบิ๊กไปเรื่อย ๆ หากเปิดเจอโล้โก้ผงซักฟอกบิ๊กใบป้ายแรกจะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และถ้าหากเปิดเจอในป้ายต่อ ๆ ไป จะได้รับเงินรางวัลป้ายละ 300,000 บาท แต่ถ้าเปิดเจอตัวหยุดเกมจะหยุดทันที และได้รับเงินรางวัลที่สะสมกลับไป

(รูปแบบปี พ.ศ. 2547 - 2548)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักอยู่ 16 ป้าย โดยมีป้าย 1,000 บาท (4 ป้าย) 2,000 บาท และ 3,000 บาท อย่างละ 3 ป้าย ป้ายโบนัส ซึ่งมีมูลค่า 10,000 บาท และป้ายหยุดอีกอย่างละ 3 ป้าย (ผู้สนับสนุนในรอบนี้คือ น้ำยาปรับผ้านุ่ม smart, รถจักรยานเทอร์โบ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตามลำดับ) โดยกติกาคือ ผู้ที่เข้ารอบจากรอบมิวสิคแอ็คชั่นจะต้องเปิดป้ายรางวัลเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้เงินสูงสุดก่อนเล่นเกมด่านสุดท้าย แต่ถ้าเจอตัวหยุดเกมจะยุติทันทีพร้อมกับเงินที่สะสมไว้

(รูปแบบปี พ.ศ. 2551)

[แก้]

โดยในรอบนี้จะมีแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลักอยู่ 14 ป้าย เป็นเงิน 5,000 บาท ทั้งหมด 9 ป้าย และตัวหยุดซึ่งเป็นหน้าพิธีกรทั้ง 5 คน คนละ 1 ป้าย (ผู้สนับสนุนในขณะนั้นคือ แป้งเบบี้มายด์) โดยให้ผู้เข้าแข่งขันที่ตกรอบจากการประกวด สู่ฝันปั้นดาว ในสัปดาห์นั้นเป็นคนเลือก เปิดได้เท่าไหร่เอาไปเท่านั้น

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]