เครก เบลลามี
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เครก ดักลัส เบลลามี | ||
วันเกิด | 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 | ||
ส่วนสูง | 175 ซ.ม. | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า ปีกซ้าย | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1988 - 1990 | บริสตอล โรเวอร์ส | ||
1990 - 1996 | นอริช ซิตี้ | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1996–2000 | นอริช ซิตี้ | 84 | (32) |
2000–2001 | คอเวนทรีซิตี | 34 | (6) |
2001–2005 | นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด | 93 | (28) |
2005 | → เซลติก (ยืมตัว) | 12 | (7) |
2005–2006 | แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส | 27 | (13) |
2006–2007 | ลิเวอร์พูล | 27 | (7) |
2007–2009 | เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | 24 | (7) |
2009–2011 | แมนเชสเตอร์ซิตี | 40 | (12) |
2010–2011 | → คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (ยืมตัว) | 35 | (11) |
2011–2012 | ลิเวอร์พูล | 24 | (6) |
2012–2014 | คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ | 55 | (6) |
รวม | 455 | (135) | |
ทีมชาติ‡ | |||
Wales U18 | 9 | (6) | |
1997–1998 | Wales U21 | 8 | (1) |
1998–2013 | เวลส์ | 78 | (19) |
2012 | สหราชอาณาจักรฯ | 5 | (1) |
จัดการทีม | |||
2019–2021 | อันเดอร์เลคต์ (U21) | ||
2024– | เวลส์ | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 May 2014 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 15 October 2013 |
เครก ดักลัส เบลลามี (อังกฤษ: Craig Douglas Bellamy) เป็นอดีตนักฟุตบอลชื่อดังชาวเวลส์ และเคยเป็นกัปตันทีมชาติเวลส์ รวมถึงติดทีมชาติสหราชอาณาจักรบริเทนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (BG) ลงแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ปี 2012 ที่กรุงลอนดอนถึงแม้ในช่วงที่ยังเล่นฟุตบอลเครก เบลลามีจะเป็นนักเตะที่ก่อเรื่องฉาวมากมายแต่ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหน้าที่มีความเร็วสูงมากคนหนึ่งในวงการฟุตบอลอังกฤษ ผ่านการเล่นให้กับสโมสรชั้นนำหลายสโมสร เช่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับสโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ หลังจบพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013 - 2014
โดยในปี 2014 เครก เบลลามี ได้รับการจารึกไว้ว่าเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีก ให้กับสโมสรต้นสังกัดของตัวเองได้มากถึง 7 สโมสร แซงหน้าเลส เฟอร์ดินานด์, แอนดี้ โคล, ร็อบบี้ คีน , ดาร์เรน เบนท์และ นิโกลาส์ อเนลก้า ที่ยิงประตูได้กับ 6 สโมสร (เบลลามียิงในพรีเมียร์ลีก 6 ประตูให้โคเวนทรี่ ซิตี้ , 28 ประตูให้นิวคาสเซิ่ล, 13 ประตูให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส , 13 ประตูให้ลิเวอร์พูล, 7 ประตูให้เวสต์แฮม , 12 ประตูให้แมนเชสเตอร์ซิตี และยิง 2 ประตูในระดับพรีเมียร์ลีกให้คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้เป็นสโมสรสุดท้าย)
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]เครก เบลลามี เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ปี1979 ที่โรงพยาบาลเซนต์ เดวิด เมืองคาร์ดิฟฟ์ (เวลส์) และแต่งงานกับแคลร์ แยนเซ่นแฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นในเดือนมิถุนายน ปี 2006 (ก่อนจะแต่งงานกันทั้งคู่มีลูกด้วยกันมาแล้ว) โดยทั้งคู่มีลูกชาย 2คนคือเอลลิส ,คาเมรอน และมีลูกสาว 1 คนคือ เล็กซ์ซี่ ทั้งคู่หย่ากันในปี 2012
"เอลลิส เบลลามี" ลูกชายคนโตของเขา (เกิดปี 1998) เลือกเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้าเหมือนพ่อ และอยู่ในระบบพัฒนาเยาวชนของสโมสรอาชีพ โดยในปี 2012 เอลลิสก้าวขึ้นมาติดทีมชาติเวลส์ ชุดอายุไม่เกิน 16 ปี
การค้าแข้ง
[แก้]นอริช ซิตี้
[แก้]เบลลามีเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ9ขวบที่สโมสรบริสตอล โรเวอร์สและเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่ในทีมชุดเยาวชนของนอริช ซิตี้ โดยเขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแบร็ดฟอร์ด ซิตี้ โดยในระหว่างการทดสอบฝีเท้ากับแบร็ดฟอร์ด ซิตี้นั้น เขายิงไปถึง7ประตูจากการลงทดสอบ3นัด แต่กลับไม่ได้รับการเซ็นสัญญาด้วยเพราะสโมสรให้เหตุผลว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
เขาได้รับโอกาสลงเล่นให้นอริช ซิตี้นัดแรก ในเกมส์พบกับคริสตัล พาเลซเมื่อวันที่15 มีนาคม ปี1997 และกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในฤดูกาล1997-1998 โดยฤดูกาลนั้นเขายิงได้13ประตูจากการลงสนาม38นัด
ฤดูกาล1998-1999 เขาต้องพลาดการลงสนามให้ต้นสังกัดถึง 2เดือนจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากการเข้าปะทะกับกองหลังทีมวูลฟ์แฮมป์ตัน แต่หลังจากที่เขาหายบาดเจ็บกลับมาลงสนาม เขาก็สร้างผลงานได้อย่างดีเมื่อยิงไปถึง17ประตูจากการลงสนาม38นัด
ฤดูกาล1999-2000 เบลลามีได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าในช่วงปรีซีซั่น และกลับมาลงสนามในปลายฤดูกาล และเมื่อจบฤดูกาลนั้นเขาก็ได้รับความสนใจจากหลายๆทีมเช่นนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, เซลติก และสโมสรวิมเบิลดัน(ปัจจุบันคือสโมสรมิลตัน คีย์น ดอนส์) แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาเลือกย้ายไปเล่นให้โคเวนทรี่ ซิตี้ด้วยค่าตัว 6ล้าน5แสนปอนด์ หลังจากที่สโมสรโคเวนทรี่ได้เงินจากการขายร็อบบี้ คีนดาวยิงของทีมให้สโมสรอินเตอร์ มิลานในอิตาลี
ผลงานของเขาที่นอริช ซิตี้เมื่อรวมทุกรายการคือการยิง34ประตูจากการลงสนาม91นัด ทำให้ในปี 2002 เขาได้รับเลือกให้เข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศของสโมสรนอริช ซิตี้ จากผลโหวตของแฟนบอล
โคเวนทรี่ ซิตี้
[แก้]เครก เบลลามีเริ่มต้นได้ไม่ดีนักที่สโมสรแห่งใหม่เมื่อยิงได้เพียง3ประตู และ2ประตูในจำนวนนั้นมาจากการยิงลูกจุดโทษ หลังจากนั้นมีข่าวลือหนาหูว่าเขาจะย้ายกลับไปเล่นให้นอริชแต่เขาก็ยังอยู่กับทีมต่อไป ฤดูกาลนั้นโคเวนทรี่ต้องหนีตกชั้นและเบลลามีได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการย้ายทีมหากโคเวนทรี่ต้องตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 และเมื่อโคเวนทรี่ ซิตี้ต้องตกชั้นเป็นครั้งแรกในรอบ34ปี และเขายิงได้เพียง6ประตูจากการลงสนาม 34นัด เขาจึงย้ายไปเล่นให้ทีมที่ใหญ่กว่าในที่สุด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
[แก้]ฤดูกาล2001-2002 เบลลามีเปิดตัวในฐานะสมาชิกใหม่ของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน โดยคู่หูในแดนหน้าของเขาคืออลัน เชียเรอร์สุดยอดกองหน้าทีมชาติอังกฤษ
เบลลามียิงประตูในสนามเหย้าของทีมต่อหน้าแฟนบอลเป็นครั้งแรกในเกมส์ที่เอาชนะสโมสรโลเคอเรนจากเบลเยี่ยมไป 1-0 และเขาจบฤดูกาลนั้นด้วยการพาทีมได้อันดับที่4ในลีกและได้โควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้า โดยเขาได้รับรางวัล นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ จากผลโหวตของนักฟุตบอลด้วยกันเองอีกด้วย
ต่อมาเบลลามีเริ่มถูกมองว่ามีปัญหาด้านความประพฤติเมื่อถูกตั้งข้อหาว่าทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าไนท์ คลับในเมืองนิวคาสเซิ่ลโดยก่อนหน้านี้เขาเคยโดนตั้งข้อหาเดียวกันมาแล้วเมื่อถูกตำรวจจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้หญิง2คน ที่หน้าไนท์คลับในเมืองคาร์ดิฟฟ์โดยที่คดียังอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาล
ฤดูกาลที่2ของเขากับนิวคาสเซิ่ล เขาได้เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมและยิงคนเดียว2ประตู ในชัยชนะ3-2 ต่อสโมสรเฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัมส่งผลให้ทีมเข้าสู่รอบที่2ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่เขาโชคไม่ดีนักเมื่อในเกมส์ต่อมากับอินเตอร์ มิลานเขาถูกไล่ออกจากสนามเพราะไปจงใจเตะใส่มาร์โก มาเตราซซี่กองหลังฝั่งตรงข้ามนอกจากทีมจะแพ้ไป4-1แล้ว เขายังถูกแบนถึง3นัดอีกด้วย
ความประพฤติและการควบคุมอารมณ์ของเบลลามีดูเหมือนจะมีปัญหาเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อในเดือนมีนาคม ปี 2004 เขาเขวี้ยงเก้าอี้ใส่จอห์น คาร์เวอร์สตาฟฟ์โค้ชของทีมที่สนามบินนิวคาสเซิ่ล
หลังจากเซอร์บ็อบบี้ ร็อบสันแยกทางกับนิวคาสเซิ่ลในเดือนส��งหาคม ปี 2004 เบลลามีมีปัญหาส่วนตัวกับแกรม ซูเนสส์กุนซือคนใหม่ของทีมเป็นอย่างมาก และในเดือนมกราคม ปี 2005 เบลลามีถูกตัดออกจากทีมในเกมส์พรีเมียร์ลีกนัดพบกับอาร์เซนอล โดยหลังจบเกมส์ซูเนสส์ให้เหตุผลว่าเบลลามีมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย แต่มีการเปิดเผยภายหลังว่าการที่เขาถูกตัดออกจากทีมแท้จริงแล้วเป็นเพราะเขายืนกรานไม่ยอมลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตามคำสั่งของซูเนสส์
ต่อมาเบลลามีออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวโดยยืนยันว่าเขายินดีเล่นในทุกตำแหน่ง และยังออกมาตอบโต้แกรม ซูเนสส์อย่างเผ็ดร้อนว่ากุนซือผู้นี้เป็นคนขี้โกหกจากการเอาเหตุผลเรื่องอาการบาดเจ็บที่ไม่มีอยู่จริงของเขามาอ้างเพื่อตัดเขาออกจากทีม
หลังจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นของเบลลามี เขาถูกซูเนสส์เอาคืนด้วยการออกมาประกาศว่าเบลลามีจะไม่มีวันได้เล่นในสีเสื้อของนิวคาสเซิ่ลอีกต่อไปและเขายังลงโทษปรับเงินค่าเหนื่อยของเบลลามีอีก2สัปดาห์เป็นเงินถึง8,0000 ปอนด์
กลาสโกว์ เซลติก
[แก้]วันที่ 31 มกราคม ปี 2005 เบลลามีถูกส่งตัวไปให้สโมสรกลาสโกว์ เซลติก ในสก็อตแลนด์ยืมตัวจนจบฤดูกาล หลังจากเขาปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีมเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เซลติกเขายิงได้ถึง9ประตู และเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดได้แชมป์สก็อตติช คัพซึ่งจัดว่าเป็นถ้วยรางวัลใบแรกในชีวิตนักฟุตบอลของเขาทีเดียว
ระหว่างการเล่นที่เซลติกเขาได้สร้างวีรกรรมอีกครั้งเมื่อเขารู้ข่าวว่านิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดต้นสังกัดที่แท้จริงแพ้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำให้ตกรอบ4ทีมสุดท้ายในเอฟเอคัพปี2005 เขาก็ได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือไปเยาะเย้ยอลัน เชียเรอร์อดีตเพื่อนร่วมทีมซึ่งเป็นขวัญใจของแฟนบอล โดยข้อความมีเนื้อหาว่า"คุณมันทั้งแก่ และช้าเกินไป"
กลาสโกว์ เซลติกพยายามที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีมแบบถาวร แต่ในเดือนกรกฎาคมปี 2005 กลายเป็นแบล็คเบิร์น โรเวอร์สที่สามารถเซ็นสัญญาคว้าตัวเบลลามีได้สำเร็จที่ค่าตัว5ล้านปอนด์ ทำให้เขาได้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[แก้]เครก เบลลามีเซ็นสัญญา 4 ปีย้ายไปร่วมทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์สในฤดูกาล 2005-2006 ภายใต้การคุมทีมของมาร์ค ฮิวจ์สซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในทีมชาติเวลส์ และเขากลับมาสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดเมื่อยิงให้สโมสรรวมทุกรายการถึง 17 ประตู โดยเป็นการยิงในลีก 13 ประตู และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 และได้เล่นยูฟ่าคัพในฤดูกาลหน้า และจากผลงานดังกล่าวก็ทำให้เขากลับมาได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อีกครั้งแม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ก็ตาม
เบลลามีกลับมาเยือนนิวคาสเซิ่ลอีกครั้งแต่กลับไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีอีกทั้งยังถูกโห่ไล่จากเหตุการณ์ที่เขาส่งข้อความมาเยาะเย้ยอลัน เชียเรอร์ขวัญใจของแฟนบอล โดยตัวแทนของเครก เบลลามีได้ออกมาแก้ตัวถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าเบลลามีทำโทรศัพท์หาย และไม่ได้เป็นคนส่งข้อความเช่นว่านั้น
ลิเวอร์พูล
[แก้]เดือนมิถุนายน ปี 2006 เริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดอย่างหนักว่าลิเวอร์พูลอยากได้ตัวเบลลามีมาร่วมทีม และเบลลามีก็ได้ออกมาพูดในทำนองว่าคงเป็นเรื่องที่ดีหากตนเองได้เล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง ทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าเขาจะย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล
วันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2006 เบลลามีเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้เล่นของลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 6 ล้าน 5 แสนปอนด์ ภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซ และยิงประตูแรกในลีกให้ต้นสังกัดใหม่ได้ในเกมส์พบแบล็คเบิร์น โรเวอร์สสโมสรเดิมของเขา และเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมส์พบวีแกน แอธเลติก ซึ่งทีมเอาชนะได้ 4-0 โดยเขายิงคนเดียว 2 ประตูและจ���ายให้เพื่อนยิงอีก1ประตู และเกมส์นั้นเป็นเกมส์แรกที่เขาเล่นหลังพ้นข้อกล่าวหาในคดีทำรายร่างกายผู้หญิง2คนที่หน้าไนท์คลับ เมืองคาร์ดิฟฟ์ โดยฤดูกาลนั้นเขายิงในลีกให้ลิเวอร์พูล 7 ประตู
แม้ตัวเขาจะย้ายมาลิเวอร์พูลแล้วแต่สงครามระหว่างเขาและนิวคาสเซิ่ลต้นสังกัดเก่าดูเหมือนจะยังไม่จบ เมื่อวันที่ 20 กันยายน ปี 2006 หลังเกมส์ที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะนิวคาสเซิ่ลไปได้ 2-0 เบลลามีและเทอร์รี่ แม็คเดอม็อตต์ อดีตดาวดังทีมชาติอังกฤษซึ่งเป็นสตาฟฟ์โค้ชของนิวคาสเซิ่ล ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทถึงขั้นสาวหมัดใส่กันในอุโมงค์ที่สนามแอนด์ฟิลด์ก่อนจะมีคนจับทั้งคู่แยกออกจากกัน
และเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตะลึงในช่วงเวลาระหว่างเขาและลิเวอร์พูลนั้นเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 ในขณะที่ทีมกำลังเก็บตัวฝึกซ้อมที่โปรตุเกส และมีการสังสรรค์กันที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เบลลามีได้เซ้าซี้ให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ กองหลังของทีมแข่งร้องคาราโอเกะ แต่กลับถูกรีเซ่ปฏิเสธและตะคอกใส่จึงทำให้เขารู้สึกเสียหน้า จึงนำไม้กอล์ฟไปฟาดขาของรีเซ่ในสภาพมึนเมาควบคุมสติไม่ได้ เหตุการณ์นั้นทำให้ทั้งคู่ถูกปรับเงินกันคนละ2สัปดาห์ และได้ออกมาขอโทษผู้จัดการและเพื่อนร่วมทีมภายหลัง
เกมส์แรกหลังเหตุการณ์ดังกล่าวลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือนบาร์เซโลนา หลังจากเดโก้ยิงประตูให้บาร์เซโลนาขึ้นนำ 1-0 เบลลามีก็ยิงประตูตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จและฉลองการทำประตูด้วยท่าสวิงไม้กอล์ฟเป็นการระบายความอัดอั้น หลังจากนั้นเขาก็เป็นคนส่งบอลให้รีเซ่คู่กรณีที่โปรตุเกสยิงประตูชัยพาทีมพลิกชนะ 2-1 และเป็นการยุติความขัดแย้งของทั้งคู่
การที่เขาไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงจึงทำให้ไม่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอและมีปัญหาด้ารการสื่อสารกับราฟาเอล เบนิเตซผู้จัดการทีม เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมเมื่อจบฤดูกาล และมีหลายสโมสรสนใจอยากได้ตัวเขาเช่นแอสตันวิลลา,ยูเวนตุส ในที่สุดราฟาเอล เบนิเตซก็ออกมายืนยันว่าเบลลามีจะย้ายไปร่วมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 7 ล้าน 5 แสนปอนด์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[แก้]เครก เบลลามีเปิดตัวในฐานะนักเตะหมายเลข 10 ของเวสต์แฮม ยูไนเต็ดในวันที่ 10 กรกฎาคม ปี2007 ด้วยค่าตัว 7 ล้าน 5 แสนปอนด์ภายใต้สัญญา 5 ปีและยิงประตูแรกให้ต้นสังกัดได้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2007 ในเกมส์ลีกคัพโดยทีมเอาชนะบริสตอล โรเวอร์สได้ 2-1 จากนั้นเบลลามีต้องพบกับอาการบาดเจ็บอย่างหนักในฤดูกาลแรกของเขากับเวสต์แฮม ทำให้ลงสนามได้เพียง 9 นัด และยิงได้ 4 ประตู
เบลลามีกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมส์นัดที่3ของฤดูกาล 2008-2009 และยิงประตูแรกในรอบ 6 เดือนในนัดที่ชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-1 และเป็นประตูที่5ที่เขายิงให้กับทีมในทุกรายการนับแต่ย้ายมาเมื่อปี 2007
ในเดือนมกราคม ปี 2009 ช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขายผู้เล่นรอบ 2 เบลลามีได้รับความสนใจจากหลายทีม ทั้งท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์รวมถึงแมนเชสเตอร์ซิตี เขาประกาศชัดเจนว่ามีความต้องการจะย้ายออกจากทีม แม้ว่าจิอันฟรังโก้ โซล่าผู้จัดการทีมจะไม่สบอารมณ์นักกับกระแสข่าวการย้ายทีมครั้งนี้ และสโมสรก็ปฏิเสธข้อเสนอของแมนเชสเตอร์ซิตีมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่การยื่นข้อเสนอครั้งที่ 3 ของแมนเชสเตอร์ซิตีที่ไม่เป็นที่เปิดเผยมูลค่า แต่สื่อคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านปอนด์ ก็ทำให้ทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ดยอมปล่อยเขาออกจากทีม
แมนเชสเตอร์ซิตี
[แก้]เบลลามี ย้ายมาสวมเสื้อหมายเลข 39 ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ในครึ่งหลังของฤดูกาล 2008- 2009 ภายใต้การคุมทีมของมาร์ค ฮิวจ์ส เจ้านายเก่าสมัยเล่นที่สโมสรแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และเขาลงสนามเป็นนัดแรกก็ยิงประตูให้ทีมคว้าชัยชนะได้ทันที โดยเป็นการยิงทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดสโมสรเก่าของเขา เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2009 ในเกมส์พรีเมียร์ลีก
ในฤดูกาล 2009-2010 ประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้เริ่มจากการยิงใส่อาร์เซนอล ในเกมส์ที่เปิดบ้านชนะไป 4-2 เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 2009 และในสัปดาห์ต่อมาเขาก็ยิงคนเดียวอีกสองประตูที่สนามโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ดในเกมส์แมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ครั้งที่ 153 แต่ถึงเขาจะยิงได้ 2 ประตูแต่แมนเชสเตอร์ซิตีก็แพ้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 4-3 โดยในเกมส์นัดดังกล่าวหลังจากที่ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้ แฟนบอลวัย 21 ปีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรายหนึ่งก็กระโดดลงมาป่วนแสดงความดีใจในสนามก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ถึง 4 คนจับตัวเอาไว้ได้ ในขณะนั้นเองเบลลามีที่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเต็มที่ได้เดินตรงเข้าไปตบแบบกึ่งชกใส่แฟนบอลรายนั้น หลังจบเกมส์เขาได้ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษตักเตือนถึงพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนแฟนบอลที่ลงมาสร้างปัญหาถูกศาลห้ามชมเกมส์ในสนามเป็นเวลา 3 ปี
ขณะที่เบลลามีกำลังทำผลงานได้ดี มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมที่นำตัวเขามาร่วมทีม ได้ถูกเจ้าของสโมสรปลดออกจากตำแหน่ง และผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างโรแบร์โต้ มันชินี่ ก็ให้เขาเป็นตัวสำรองของทีมในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนั้นเขาก็ยังตัดสินใจที่จะอยู่เล่นกับทีมต่อไป
ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ มันชินี ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวจริง แต่ก็เป็นคนยิง 2 ประตู ในเกมส์พบเชลซีซึ่งเอาชนะไปได้ 4-2 โดย 2 ประตูของเบลลามีในเกมส์นั้น ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะเชลซีได้ถึงสนามแสตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเลยทีเดียว
แมนเชสเตอร์ซิตีจบฤดูกาล 2009-2010 ด้วยอันดับ 5 ได้สิทธิ์เล่นยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยเครก เบลลามียิงไป 10 ประตูในลีก
ฤดูกาล 2010-2011 โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้ตัดเครก เบลลามี ออกจากรายชื่อนักเตะที่จะใช้ในยูโรป้า ลีก ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ทีมบ้านเกิดของเขาในลีกเดอะ แชมเปี้ยนชิพด้วยสัญญายืมตัว
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
[แก้]ฤดูกาล 2010-2011 เบลลามีย้ายมาร่วมทีมคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี โดยเขาลงเล่นที่นี่ภายใต้การคุมทีมของเดฟ โจนส์
ลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2011)
[แก้]เบลลามีได้ย้ายกับอยู่กับ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล อีกครั้งในปี ค.ศ. 2011 โดยได้สวมเสื้อเบอร์ 39 ได้ลงเล่นตัวจริง 32 นัด ทำประตูไปได้ 10 ประตู แล้วในช่วงปี ค.ศ. 2012 เบลลามีโชว์ฟอร์มเด่นอีกครั้งในนัด ลีกคัพ โดยลิเวอร์พูลได้เจอกับแมนเชสเตอร์ซิตี เบลลามีทำประตูไป 2 ลูกติดกันทำให้ลิเวอร์พูลเสมอแมนเชสเตอร์ซิตีไป 2-2 แต่เข้ารอบด้วยรอบแรกลิเวอร์พูลชนะ 1-0 ด้วยกฎประตูทีมเยือน และ ในนัดรอบตัดเชือก เอฟเอคัพ ตอนเจอกับเอฟเวอร์ตันในนาทีที่ 87 เบลลามียิงฟรีคิกจากทางริมเส้นฝั่งซ้ายบอลลอยมาถึง แอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ โหม่งเข้าไปจึงทำให้ลิเวอร์พูลชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ 2-1
การกุศล
[แก้]6 พฤษภาคม ปี 2008 เบลลามีเปิดเผยว่าตัวเขามีโครงการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสเด็กในย่านฟรีทาวน์ เมืองหลวงของประเทศเซียร์ร่า ลีโอน และต่อมาเขาก็ได้เดินทางไปเยี่ยมเมืองที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามและบริจาคเงินส่วนตัวเป็นจำนวนมากถึง6แสน5หมื่นปอนด์ เพื่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลเพื่อพัฒนาเยาวชน
ภาพพจน์ของเบลลามีดูเหมือนจะดีขึ้นแต่โชคร้ายที่กลับเกิดเรื่องอื้อฉาวอีกครั้ง โดยในวันที่14 มิถุนายน ปี2008 ขณะที่เขาตั้งใจที่จะไปเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลในเซียร์ร่า ลีโอน แต่กลับก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่การกุศลในบ่อนคาสิโนหลังจากเสียพนันในร้าน
เกียรติประวัติ
[แก้]- เซลติก
- Scottish Cup (1): 2005
- แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
- รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรประจำฤดูกาล 2005-2006
- ลิเวอร์พูล
- ลีกคัพ (1): 2011–12
- เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ (1): 2006
- คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
- ลีกเดอะ แชมเปียนชิพ (แชมป์) :2012-2013
สถิติ
[แก้]ระดับสโมสร | เกมลีก | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ระดับทวีป | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | สโมสร | ลีก | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู |
อังกฤษ | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ยุโรป | รวม | |||||||
1996–97 | Norwich City | First Division | 3 | 0 | - | - | - | 3 | 0 | |||
1997–98 | 36 | 13 | 1 | 0 | 1 | 0 | - | 38 | 13 | |||
1998–99 | 40 | 17 | - | 5 | 2 | - | 45 | 19 | ||||
1999–2000 | 4 | 2 | - | - | - | 4 | 2 | |||||
2000–01 | 1 | 0 | - | - | - | 1 | 0 | |||||
2000–01 | Coventry City | Premier League | 34 | 6 | 2 | 1 | 3 | 1 | - | 39 | 8 | |
2001–02 | Newcastle United | 27 | 9 | 3 | 0 | 3 | 4 | 6 | 1 | 39 | 14 | |
2002–03 | 29 | 7 | 1 | 0 | - | 6 | 2 | 36 | 9 | |||
2003–04 | 16 | 5 | - | - | 8 | 5 | 24 | 10 | ||||
2004–05 | 21 | 7 | 1 | 0 | 2 | 0 | 5 | 3 | 29 | 10 | ||
Scotland | ลีก | Scottish Cup | Scottish League Cup | ยุโรป | รวม | |||||||
2004–05 | Celtic | Scottish Premier League | 12 | 7 | 3 | 2 | - | - | 15 | 9 | ||
อังกฤษ | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ยุโรป | รวม | |||||||
2005–06 | Blackburn Rovers | Premier League | 27 | 13 | 1 | 2 | 4 | 2 | - | 32 | 17 | |
2006–07 | Liverpool | 27 | 7 | - | 2 | 0 | 12 | 2 | 41 | 9 | ||
2007–08 | West Ham United | 8 | 2 | - | 1 | 2 | - | 9 | 4 | |||
2008–09 | 16 | 5 | 1 | 0 | 17 | 5 | ||||||
Manchester City | 8 | 3 | - | 0 | 0 | 3 | 2 | 11 | 5 | |||
2009–10 | 32 | 10 | 3 | 1 | 5 | 0 | - | 40 | 11 | |||
2010–11 | Cardiff City | Championship | 35 | 11 | 0 | 0 | 0 | 0 | - | 36 | 11 | |
2011–12 | Liverpool | Premier League | 4 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | - | 5 | 2 | |
Premier League | 261 | 82 | 12 | 4 | 21 | 10 | 40 | 15 | 334 | 111 | ||
รวม | อังกฤษ | 349 | 119 | 13 | 4 | 25 | 12 | 40 | 15 | 425 | 149 | |
Scotland | 12 | 7 | 3 | 2 | - | - | 15 | 9 | ||||
สรุปรวม | 361 | 126 | 16 | 6 | 25 | 12 | 40 | 15 | 440 | 158 |
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เบลลามีฉะรีเซ่หยิบไม้กอล์ฟหวดเดี้ยง เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ฉาวอีก!! เบลลามีวิวาทในกาสิโนทวีปแอฟริกา เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2522
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวเวลส์
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลนอริชซิตี
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเซลติก
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- บุคคลจากคาร์ดิฟฟ์
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012
- กองหน้าฟุตบอล
- นักฟุตบอลทีมชาติเวลส์
- ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์
- ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติเวลส์