รัฐยูทาห์
รัฐยูทาห์ State of Utah | |
---|---|
สมญา: | |
คำขวัญ: "อุตสาหกรรม" (อังกฤษ: Industry) | |
เพลง: "ยูทาห์...ดิสอิสเดอะเพลซ" (อังกฤษ: Utah...This Is the Place) | |
แผนที่สหรัฐเน้นรัฐยูทาห์ | |
ประเทศ | สหรัฐ |
สถานะก่อนเป็นรัฐ | ดินแดนยูทาห์ |
เข้าร่วมสหรัฐ | 4 มกราคม 1896 | (ลำดับที่ 45)
เมืองหลวง (และเมืองใหญ่สุด) | ซอลต์เลกซิตี |
มหานครใหญ่สุด | ซอลต์เลกซิตี |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าการ | สเปนเซอร์ คอกซ์ (ร) |
• รองผู้ว่าการ | ดีเดรอ เฮนเดอร์สัน (ร) |
สภานิติบัญญัติ | สภานิติบัญญัติรัฐยูทาห์ |
• สภาสูง | วุฒิสภา |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
ฝ่ายตุลาการ | ศาลสูงสุดยูทาห์ |
สมาชิกวุฒิสภา | ไมก์ ลี (ร) มิตต์ รอมนีย์ (ร) |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | 1: เบลก มัวร์ (ร) 2: คริส สตูเวิร์ต (ร) 3: จอห์น เคอร์ติส (ร) 4: เบอร์จิสส์ โอวินส์ (ร) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 84,899 ตร.ไมล์ (219,887 ตร.กม.) |
• พื้นดิน | 82,144 ตร.ไมล์ (212,761 ตร.กม.) |
• พื้นน้ำ | 2,755 ตร.ไมล์ (7,136 ตร.กม.) 3.25% |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 13 |
ขนาด | |
• ความยาว | 350 ไมล์ (560 กิโลเมตร) |
• ความกว้าง | 270 ไมล์ (435 กิโลเมตร) |
ความสูง | 6,100 ฟุต (1,860 เมตร) |
ความสูงจุดสูงสุด (คิงส์พีก[3][4]) | 13,534 ฟุต (4,120.3 เมตร) |
ความสูงจุดต่ำสุด (บีเวอร์แดมวอช ที่พรมแดนรัฐแอริโซนา[4][5]) | 2,180 ฟุต (664.4 เมตร) |
ประชากร (2020) | |
• ทั้งหมด | 3,271,616[6] คน |
• อันดับ | อันดับที่ 30 |
• ความหนาแน่น | 36.53 คน/ตร.ไมล์ (14.12 คน/ตร.กม.) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 41 |
• ค่ามัธยฐานรายได้ครัวเรือน | 60,365 ดอลลาร์[7] |
• อันดับรายได้ | อันดับที่ 11 |
ภาษา | |
• ภาษาทางการ | อังกฤษ |
เขตเวลา | UTC−07:00 (เวลาภูเขา) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC−06:00 (เวลาออมแสงภูเขา) |
อักษรย่อไปรษณีย์ | UT |
รหัส ISO 3166 | US-UT |
อักษรย่อเดิม | Ut. |
ละติจูด | 37° เหนือ ถึง 42° เหนือ |
ลองจิจูด | 109°3′ ตะวันตก ถึง 114°3′ ตะวันตก |
เว็บไซต์ | utah |
ยูทาห์ (อังกฤษ: Utah, ออกเสียง: /ˈjuːtɑː/, /ˈjuːtɔː/ ( ฟังเสียง)) เป็นรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในอนุภูมิภาคตะวันตกภูเขาของภาคตะวันตกของสหรัฐ มีพรมแดนทางใต้ติดต่อกับรัฐแอริโซนา ทางตะวันตกติดต่อกับรัฐเนวาดา ทางเหนือติดต่อกับรัฐไอดาโฮ ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับรัฐไวโอมิง ทางตะวันออกติดต่อกับรัฐโคโลราโด และทางตะวันออกเฉียงใต้จรดมุมหนึ่งของรัฐนิวเม็กซิโก ในบรรดาห้าสิบรัฐของสหรัฐ ยูทาห์เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 13 มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 30 และมีประชากรหนาแน่นน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 11 การพัฒนาเมืองส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในสองพื้นที่ ได้แก่ วาแซตช์ฟรอนต์ทางตอนเหนือของรัฐซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรประมาณสองในสามและเป็นที่ตั้งเมืองหลวงซอลต์เลกซิตี และเทศมณฑลวอชิงตันทางตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 180,000 คน พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกของยูทาห์อยู่ในเกรตเบซิน
ยูทาห์เป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองกลุ่มต่าง ๆ มานานนับพันปี เช่น ชาวปูเอโบลโบราณ ชาวนาวาโฮ และชาวยูต ชาวสเปนเป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาถึงในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษ 16 แต่ภูมิประเทศที่ทุรกันดารและภูมิอากาศที่รุนแรงส่งผลให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นพื้นที่รอบนอกของนิวสเปนและเม็กซิโกในเวลาต่อมา แม้ในขณะที่เป็นดินแดนของเม็กซิโก ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกเริ่มของยูทาห์หลายคนก็เป็นชาวอเมริกันโดยเฉพาะชาวมอรมอนที่หลบหนีการผลักไสไปอยู่ชายขอบและการเบียดเบียนจากสหรัฐ หลังสงครามเม็กซิโก-สหรัฐใน ค.ศ. 1848 ภูมิภาคนี้ถูกผนวกเข้ากับสหรัฐและกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนยูทาห์ซึ่งครอบคลุมถึงรัฐโคโลราโดและรัฐเนวาดาในปัจจุบัน ข้อพิพาทระหว่างชุมชนมอรมอนกับรัฐบาลกลางสหรัฐทำให้การรับยูทาห์เข้าเป็นรัฐนั้นล่าช้า โดยยูทาห์เพิ่งจะเข้าร่วมสหรัฐเป็นลำดับที่ 45 ใน ค.ศ. 1896 หลังการประกาศให้การแต่งงานแบบมีคู่ครองหลายคนผิดกฎหมายเท่านั้น
ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งเล็กน้อยของยูทาห์เป็นชาวมอรมอน และส่วนใหญ่ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (ศาสนจักรแอลดีเอส) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ระดับโลกอยู่ในซอลต์เลกซิตี[8] ยูทาห์เป็นเพียงรัฐเดียวที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นสมาชิกศาสนจักรเดียว[9] ศาสนจักรแอลดีเอสมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรม การเมือง และชีวิตประจำวันของชาวยูทาห์[10] ถึงแม้ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ยูทาห์จะมีความหลากหลายทางศาสนามากขึ้นและมีความเป็นโลกวิสัยมากขึ้นก็ตาม
เศรษฐกิจของรัฐยูทาห์มีความหลากหลายเป็นอย่างสูง โดยมีภาคส่วนหลักได้แก่ การขนส่ง การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการวิจัย บริการภาครัฐ เหมืองแร่ การตลาดแบบหลายระดับชั้น และการท่องเที่ยว[11] ยูทาห์เป็นหนึ่งในรัฐที่เติบโตเร็วที่สุดตั้งแต่ ค.ศ. 2000[12] โดยสำมะโนประชากรสหรัฐ ค.ศ. 2020 ยืนยันว่ายูทาห์มีอัตราการเพิ่มประชากรรวดเร็วที่สุดในประเทศตั้งแต่ ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา เซนต์จอร์จเป็นเขตเมืองใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐตั้งแต่ ค.ศ. 2000 ถึง 2005[13] ยูทาห์จัดอยู่ในกลุ่มรัฐที่ดีที่สุดในภาพรวมจากตัวชี้วัดอย่างการดูแลสุขภาพ การบริหารปกครอง การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานเป็นต้น[14] มีรายได้เฉลี่ยมัธยฐานสูงเป็นอันดับที่ 14 และมีความไม่เท่าเทียมในรายได้น้อยที่สุดในบรรดารัฐใด ๆ ของสหรัฐ เมื่อเวลาผ่านไปและด้วยอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ช่วงหน้าแล้งในยูทาห์ได้เพิ่มความถี่และความรุนแรงขึ้น[15] สร้างความตึงเครียดต่อความมั่นคงด้านน้ำของยูทาห์และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัฐ[16]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "NetState: Utah". สืบค้นเมื่อ March 24, 2008.
- ↑ "National Historic Trails Auto Tour Interpretive Guide, Utah - Crossroads of the West" (PDF). National Park Service.
- ↑ "Kings Peak Target". NGS data sheet. U.S. National Geodetic Survey.
- ↑ 4.0 4.1 "Elevations and Distances in the United States". United States Geological Survey. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2013. สืบค้นเมื่อ October 24, 2011.
- ↑ Arave, Lynn (August 31, 2006). "Utah's basement—Beaver Dam Wash is state's lowest elevation". Deseret Morning News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 22, 2015.
- ↑ Bureau, US Census (April 26, 2021). "2020 Census Apportionment Results". The United States Census Bureau. สืบค้นเมื่อ April 27, 2021.
- ↑ "United States Median Household Income". United States Census Bureau. United States Census Bureau. สืบค้นเมื่อ April 27, 2021.
- ↑ "Adults in Utah - Religion in America". Pew Research Center. สืบค้นเมื่อ June 28, 2020.
- ↑ "American Religious Identification Survey (2001)". ISSSC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2011. สืบค้นเมื่อ October 31, 2011.
- ↑ Canham, Matt (เมษายน 17, 2012). "Census: Share of Utah's Mormon residents holds steady". The Salt Lake Tribune. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤศจิกายน 4, 2014.
- ↑ Lindsey, Daryl (September 8, 2016). "Follow the profit: How Mormon culture made Utah a hotbed for multi-level marketers". สืบค้นเมื่อ 28 March 2023.
- ↑ The Fastest-Growing States in America (and Why They're Booming)—Jordan Weissmann เก็บถาวร พฤษภาคม 25, 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The Atlantic (December 22, 2012). Retrieved on July 12, 2013.
- ↑ "Appendix E.—Ranking Tables" (PDF). State and Metropolitan Area Data Book: 2006. U.S. Census Bureau. December 22, 2008. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2009. สืบค้นเมื่อ April 29, 2009.
- ↑ "Best States Rankings". U.S. News & World Report. 2021.
- ↑ Amy Joi O'Donoghue (February 14, 2022). "How bad is the Western drought? New study says worst in 1,200 years. You read that right". Deseret News. สืบค้นเมื่อ February 18, 2022.
- ↑ "If we want growth, we need water solutions". www.utahbusiness.com. May 11, 2022. สืบค้นเมื่อ July 13, 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ทั่วไป
[แก้]- รัฐยูทาห์ ที่เว็บไซต์ Curlie
- Gannett, Henry (1888). . Encyclopædia Britannica. Vol. XXIV (9th ed.).
รัฐบาล
[แก้]- "State of Utah" (เว็บไซต์ทางการ).