พระพรหมวชิโรดม (สุทัศน์ วรทสฺสี)
บทความชีวประวัตินี้เขียนเหมือนประวัติสมัครงาน (พฤศจิกายน 2565) |
พระพรหมวชิโรดม ดร.,ป.ธ.๙ [1] นามเดิม สุทัศน์ ไชยะภา ฉายา วรทสฺสี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ[2]ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะภาค 10, เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร[3] แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร และรองแม่กองบาลีสนามหลวง
พระพรหมวชิโรดม (สุทัศน์ วรทสฺสี) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 มีนาคม พ.ศ. 2514 (53 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | • นักธรรมเอก • เปรียญธรรม 9 ประโยค • ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู • พุทธศาสตรบัณฑิต • ศึกษาศาสตรบัณฑิต • ครุศาสตรมหาบัณฑิต • อักษรศาสตรมหาบัณฑิต • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร |
รางวัล | รางวัลเสาเสมาธรรมจักร สาขาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม (พ.ศ. 2559) |
อุปสมบท | 21 มิถุนายน พ.ศ. 2535 |
พรรษา | 32 พรรษา |
ตำแหน่ง | • เจ้าคณะภาค 10 • เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร • รองแม่กองบาลีสนามหลวง |
ประวัติ
แก้ชาติภูมิ
แก้พระพรหมวชิโรดม[4]นามเดิมชื่อ สุทัศน์ ไชยะภา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2514 บิดาชื่อ นายสา ไชยะภา มารดาชื่อ นางจันทร์ ไชยะภา ภูมิลำเนาเดิม ณ บ้านเลขที่ 152 บ้านราษฎร์นิยม ตำบลโคกตูม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
การบรรพชา และอุปสมบท
แก้เมื่อจบประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วก็ได้บรรพชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2527 โดยมีพระครูวิบูลวุฒิคุณ (ฉลัน) อดีตเจ้าอาวาสวัดตาไก้พลวงและรองเจ้าคณะอำเภอนางรอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านจึงเข้าศึกษานักธรรมตรีที่สำนักศาสนศึกษาแห่งนี้ จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อนักธรรมโท-เอก และบาลี ณ วัดกลาง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้การปกครองของ พระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส)[5] [6](น.ธ.เอก,อภิธรรมบัณฑิต) เจ้าคณะอำเภอนางรอง(สมัยนั้น) เมื่อสอบประโยค ป.ธ.๔ ได้แล้ว พระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส,น.ธ.เอก,อภิธรรมบัณฑิต) จึงนำมาฝากพระราชเมธี (วรวิทย์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ รองเจ้าคณะภาค 10 และเจ้าคณะ 8 ขณะนั้น เพื่อเข้าศึกษาต่อ ท่านมีวิริยะอุตสาหะในการศึกษาอย่างยวดยิ่งสามารถสอบผ่านชั้นประโยค ป.ธ.๕ ถึง ป.ธ.๙ โดยไม่สอบตกเลย ธรรมเนียมวัดมหาธาตุนั้น เมื่อมีสามเณรนวกะเข้ามาอยู่อาศัยแต่ละปี จะต้องผ่านการอบรมกรรมฐาน การอบรมขนบธรรมเนียมประเพณีของวัดมหาธาตุ และบรรพชาใหม่ ท่านจึงได้บรรพชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2533 ณ พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหา���คร โดยมี พระเดชพระคุณพระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ทตฺตสุทฺธิ), ป.ธ.๘ อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อสอบไล่ได้เปรียญธรรม 6 ประโยค พออายุครบอุปสมบท ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ณ อุโบสถวัดกลาง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีพระพรหมกวี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม, อดีตเจ้าคณะภาค10 อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 6 ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร รองเจ้าคณะภาค 10 เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระธรรมวชิรสุตาภรณ์ (สุพจน์ โชติญาโณ) เจ้าอาวาสวัดกลาง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์, และเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูธีรคุณาธาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระมงคลวชิรธาดา (บัณฑร ชินวํโส) เจ้าอาวาสวัดกลาง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอนางรอง ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูพิทักษ์ชินวงศ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌาย์นามว่า" วรทสฺสี "
อุปสมบทแล้ว ก็ศึกษาต่อจนจบ ป.ธ.๙ ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุก็ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี-ปริญญาโท และปฏิบัติหน้าที่ครูสอนในมหาธาตุวิทยาลัยจนถึงปีพุทธศักราช 2540 จึงได้เป็นพระอนุจรติดตามพระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์) ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ไปอยู่วัดโมลีโลกยาราม นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในระยะแรกทำหน้าที่เป็นรองอาจารย์ใหญ่(พ.ศ. 2541-2543) และอาจารย์ใหญ่ (พ.ศ. 2544-ปัจจุบัน) ตามลำดับ ช่วยพระอุปัชฌาย์สอนบาลีและนักธรรมและบูรณปฏิสังขรณ์วัดโมลีโลกยารามตามความสามารถ จนทำให้สำนักเรียนวัดโมลีโลกยารามภายใต้การนำของพระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์) ทะยานขึ้นสู่ อันดับ 1 ของประเทศ ในปัจจุบันนอกจากจะทำงานบริหารการศึกษาของสำนักเรียนแล้ว ท่านยังได้ศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาเอกอีกด้วย
วุฒิการศึกษา
แก้- พ.ศ. 2527 สำเร็จการศึกษาชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านราษฎร์นิยม ตำบลโคกตูม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
- พ.ศ. 2530 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดกลาง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักเรียนคณะจังหวัดบุรีรัมย์
- พ.ศ. 2538 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2541 สำเร็จปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาปรัชญา (พธ.บ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2544 สำเร็จปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ (อ.ม.) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- พ.ศ. 2545 สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู (ป.วค.) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พ.ศ. 2548 สำเร็จปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา (ศษ.บ.) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พ.ศ. 2554 สำเร็จปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (ค.ม.) มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
- พ.ศ. 2557 สำเร็จปริญญาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์ (ปร.ด.) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
งานปกครองบริหารกิจการคณะสงฆ์
แก้- พ.ศ. 2544 เป็น พระกรรมวาจาจารย์
- พ.ศ. 2545 เป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
- พ.ศ. 2554 เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
- พ.ศ. 2555 เป็น เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร
- พ.ศ. 2557 เป็น พระอุปัชฌาย์ (วิสามัญ)
- พ.ศ. 2557 เป็น เจ้าคณะเขตบางกอกใหญ่
- พ.ศ. 2557 เป็น รองเจ้าคณะภาค 9
- พ.ศ. 2564 เป็น เจ้าคณะภาค 10[7]
งานด้านการศึกษา
แก้- พ.ศ. 2537 เป็น กรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง
- พ.ศ. 2539 เป็น กรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง
- พ.ศ. 2540 เป็น หัวหน้าศูนย์สังฆศาสน์ธำรง ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์การศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลีของสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
- พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2543 เป็น รองอาจารย์ใหญ่ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
- พ.ศ. 2544 เป็น อาจารย์ใหญ่ สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม
- พ.ศ. 2552 เป็น ผู้นำประโยคบาลีไปเปิดสอบ ณ หน่วยสอบวัดมหาพุทธาราม (พระอารามหลวง) จังหวัดศรีสะเกษ
- พ.ศ. 2552 เป็น พระวิทยากรประจำ บรรยายถวายความรู้ เรื่อง “การศาสนศึกษา” แก่พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสตั้งใหม่ทั่วประเทศ รวมปีละ 5 รุ่น ณ สถาบันพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
- พ.ศ. 2553 เป็น ผู้นำประโยคบาลีไปเปิดสอบ ณ หน่วยสอบวัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร
- พ.ศ. 2553 เป็น คณะกรรมการอำนวยการในการสอบธรรมสนามหลวงประจำปี ณ สนามสอบวัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2554 เป็น ผู้อำนวยการศูนย์สังฆศาสน์ธำรง ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี
- พ.ศ. 2554 เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายวิชาการสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
- พ.ศ. 2554 -พ.ศ. 2555 เป็น คณะกรรมการอำนวยการในการสอบบาลีสนามหลวงประจำปี ณ สนามสอบวัดราชสิทธาราม เ��ตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2554 เป็น คณะทำงานยกร่างข้อสอบธรรมศึกษา วิชาวินัย
- พ.ศ. 2555 เป็น ผู้แทนแม่กองธรรมสนามหลวง นำข้อสอบธรรมศึกษาไปเปิดสอบ ณ วัดวชิรธรรมปทีป มลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
- พ.ศ. 2555 เป็น ผู้อำนวยการศูนย์มหาบาลีวิชชาลัย ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาภาษาบาลีสำหรับฆราวาสทั่วไป
- พ.ศ. 2555 เป็น วิทยากรบรรยายถวายความรู้ด้านการบริหารการศึกษาบาลีแก่ครูบาลี และเจ้าสำนักเรียน-เจ้าสำนักศาสนศึกษาทั่วประเทศ โดยกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง
- พ.ศ. 2555 เป็น วิทยากรบรรยายถวายความรู้วิชา “บาลีไวยากรณ์” แก่ครูสอนบาลีทั่วประเทศ โดยกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2555 เป็น คณะกรรมการพิจารณากำหนดเกณฑ์การคัดเลือกครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลีดีเด่นประจำปี
- พ.ศ. 2556 เป็น กรรมการควบคุมห้องสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี ณ สนามสอบวัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2565 เป็น รองแม่กองบาลีสนามหลวง ประจำหนตะวันออก
- พ.ศ. 2565 เป็น ที่ปรึกษาคณะกรรมการประจำวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด[8]มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผลงานเชิงประจักษ์
แก้- เป็นผู้ปกครองสงฆ์ในระดับภูมิภาค คือ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค ๑๐ ดูแลปกครองคณะสงฆ์ ๖ จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครพนม ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ
- เป็นผู้บริหารสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน กล่าวคือ มีพระภิกษุสามเณรสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้เป็นอันดับ ๑ ของกรุงเทพมหานคร และเป็นอันดับ ๑ ของประเทศติดต่อหลายปี ดังนี้
๑. มีผลสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้อันดับที่ ๑ ของสำนักเรียนในกรุงเทพมหานครติดต่อกัน คือ พ.ศ. ๒๕๕๐, ๒๕๕๒, ๒๕๕๓, ๒๕๕๔, ๒๕๕๕, ๒๕๕๖, ๒๕๕๗, ๒๕๕๘, ๒๕๕๙, ๒๕๖๐, ๒๕๖๑, ๒๕๖๒, ๒๕๖๓, ๒๕๖๔, ๒๕๖๕, ๒๕๖๖, ๒๕๖๗
๒. มีผลสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลีได้อันดับที่ ๑ ของประเทศติดต่อกัน คือ พ.ศ. ๒๕๕๙, ๒๕๖๐, ๒๕๖๑, ๒๕๖๒, ๒๕๖๓, ๒๕๖๔ , ๒๕๖๕ , ๒๕๖๖ , ๒๕๖๗
- เป็นผู้นำการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี หรือบาลีศึกษา ไปเปิดสอนในเรือนจำเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยทำการเปิดสอนตั้งแต่พุทธศักราช 2557 จนปัจจุบัน ในเรือนจำหลายแห่ง เช่นเรือนจำแม่สอด จังหวัดตาก เรือนจำบางขวาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นต้น จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยมีผู้ต้องขังสอบพระปริยัติธรรมแผนกบาลี (บาลีศึกษา) ได้จำนวนมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้น ได้ยังเปิดโอกาสให้ฆราวาสเข้ามาศึกษาพระบาลี (บาลีศึกษา) ในสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพมหานคร
ผลงานการแต่งตำรา
แก้- เคล็ดลับวิชาสัมพันธ์ไทย ชั้นประโยค ป.ธ.3 (พ.ศ. 2538)
- ธรรมศึกษาชั้นตรี ฉบับปรับปรุงตามหลักสูตรใหม่
- ปัญหาและเฉลยบาลีสนามหลวงชั้นเปรียญเอก (พ.ศ. 2549)
- หลักสูตรบาลีไวยากรณ์และหลักสัมพันธ์
- เบญจศีลเบญจธรรม อุดมชีวิตของมนุษย์
- คู่มือคู่ใจพระคาถาธรรมบท
- พระธัมมปทัฏฐกถา แปลโดยพยัญชนะภาค1 - ภาค4
- พระธัมมปทัฏฐกถา แปลโดยพยัญชนะ ภาค5 - ภาค8
รางวัลเกียรติคุณ
แก้- พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นเกียรติคุณ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๘โดยสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับโล่เกียรติคุณ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และสังคม โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้รับรางวัลโล่เกียรติคุณจากมูลนิธิจำนงศ์ ทองประเสริฐ ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นสาขาวิชาพระพุทธศาสนา ด้านวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา
- พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
- พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม สาขาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานรางวัล
- พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ รางวัล “ธนบุรีศรีนพมาศ” ๗๐ ปี แห่งความภาคภูมิ โดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
- พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้รับรางวัลเกียรติคุณนานาชาติ มหานาคาอวอร์ด
- พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้รับรางวัลเกียรติคุณนานาชาติ ส่งเสริมคนดี มีคุณธรรม เทศกาลวันมาฆบูชา Moral Awards 2019
- พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้รับรางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ โดยคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
- พ.ศ. 2565 ได้รับถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการชุมชน (ศศ.ด.กิตติ์) มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ศาสนกิจพิเศษ
แก้- พ.ศ. 2565 เป็นพระวิทยากรบรรยายถวายพระอักษรด้านภาษาบาลี แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี และข้าราชบริพารในพระองค์ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
สมณศักดิ์
แก้- พ.ศ. 2538 ทรงตั้งเปรียญธรรม 9 ประโยค ที่ พระมหาสุทัศน์ วรทสฺสี
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระเมธีวราภรณ์[9]
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติโมลี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[10]
- 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติโมลี ศรีปริยัติดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[11]
- 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมราชานุวัตร วิภัชธรรมโกศล โสภณกิจจานุกิจ นิวิฐธรรมสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[12]
- 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมวชิโรดม ปริยัตยาคมธุรโกศล โสภณสีลสมาจาร บริหารศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[13]
อ้างอิง
แก้- ↑ https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/amulets/news_4619704
- ↑ chanhena, Bandit. "สถาปนาสมณศักดิ์ "พระธรรมราชานุวัตร" ขึ้นรองสมเด็จฯที่ "พระพรหมวชิโรดม"". เดลินิวส์.
- ↑ https://www.watmoli.org/index.php?url=about&code=admin&cat=A
- ↑ https://www.matichon.co.th/court-news/news_2612215
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม 141,ตอนที่ 38 ข, 3 กรกฎาคม 2567,หน้า4.ลำดับที่ 22. พระครูพิทักษ์ชินวงศ์ วัดกลาง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีนามว่า พระมงคลวชิรธาดา
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม 100,ตอนที่ 207 , 31 ธันวาคม 2526,ฉบับพิเศษ หน้า 32 . เจ้าอธิการบัณฑร วัดกลาง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็น พระครูพิทักษ์ชินวงศ์
- ↑ https://www.navy.mi.th/index.php/main/detail/content_id/20276
- ↑ http://roiet.mcu.ac.th/?page_id=2190
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๒๖, ตอนที่ ๖ ข, ๒๒ เมษายน ๒๕๕๒, หน้า ๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๓๑, ตอนที่ ๒๐ ข, ๒๖ กันยายน ๒๕๕๗, หน้า ๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๓๓, ตอนที่ ๒๒ ข, ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙, หน้า ๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๑๓๗, ตอนที่ ๒๐ ข, ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓, หน้า ๐๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์,เล่ม 141,ตอนที่ 17ข,หน้า 1, 8 พฤษภาคม 2567