ผู้ใช้:Mr.Big Bean/กระบะทราย c
"ปฏิบัติการอันธิงคเบิล" | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น | |||||||||
กองทัพพันธมิตรในยุโรปกลางเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
บริเตนใหญ่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เขตยึดครองเยอรมนีของสัมพันธมิตร |
สหภาพโซเวียต เขตยึดครองเยอรมนีของสหภาพโซเวียต โปแลนด์ เชโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
วินสตัน เชอร์ชิลล์ เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี William Lyon Mackenzie King แฮร์รี เอส. ทรูแมน ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ชาร์ล เดอ โกล Jean de Lattre de Tassigny |
โจเซฟ สตาลิน เกออร์กี จูคอฟ บอเลสวัฟ บีแยรุต Edvard Beneš ยอซีป บรอซ ตีโต |
ปฏิบัติการเหนือความคาดหมาย หรือ ปฏิบัติการอันธิงคเบิล (อังกฤษ: Operation Unthinkable) เป็นชื่อรหัสของทั้งสองแผนของพันธมิตรตะวันตก โดยแผนดังกล่าวได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษวินสตัน เชอร์ชิลล์เมื่อปีพ.ศ. 2488 และพัฒนาโดยกองทัพอังกฤษหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในยุโรป
แผนแรกเป็นปฏิบัติการในการโจมตีของกองกำลังโซเวียตที่ประจำการอยู่ในประเทศเยอรมนี เพื่อปกป้องพันธมิตรตะวันตกจากภัยคุกคามของโซเวียตรวมถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนและรัฐบาลพลัดถิ่นของโปแลนด์ [1] (จากไม่ประสบความสำเร็จในการประชุมยัลตา) ต่อมาแผนแรกก็ถูกยกเลิกไป ต่อมารหัสนี้ก็ถูกนำมาใช้ในแผนที่สองว่าถึงการที่สหรัฐได้ถอนทัพออกยุโรปไปแล้วจากรุกรานของโซเวียต ทำให้อังกฤษจต้องตั้งรับป้องกันทางเหนือทะเลและมหาสมุทรแอตแลนติกจากภัยยคุกคามของโซเวียต
ปฏิบัติการอันธิงคเบิล นับป็นปฏิบัติการแรกในช่วงสงครามเย็นที่กล่าวถึงการทำสงครามกับสหภาพโซเวียต[2] ทั้งสองมีแผนถูกเก็บเป็นความลับจนกระทั้งปี พ.ศ. 2541 [3]
แผนการเชิงรุก
แผนการเชิงป้องกัน
อ้างอิง
- ↑ Operation Unthinkable..., p. 1 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เก็บถาวร 16 พฤศจิกายน 2010)
- ↑ Costigliola, p. 336
- ↑ Gibbons, p. 158
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "Reynolds-250" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpRep-30" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpRep-24" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
<ref>
ชื่อ "OpRep-35" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า