เคนชิน ซามูไร เอ็กซ์
เคนชิน ซามูไร เอ็กซ์ | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ภาคภาษาไทย | |
กำกับ | โอโตะโมะ เคชิ[1] |
บทภาพยนตร์ | ฟุจิ คิโยะมิ, โอโตะโมะ เคชิ[1] |
สร้างจาก | ซามูไรพเนจร โดย โนะบุฮิโระ วะสึกิ |
อำนวยการสร้าง | คุโบะตะ โอะซะมุ[1] |
นักแสดงนำ | ซะโต ทะเกะรุ ทะเกะอิ เอะมิ |
กำกับภาพ | อิชิสะกะ ทะคุโร[1] |
ตัดต่อ | อิมะอิ สึโยะชิ[1] |
ดนตรีประกอบ | ซะโต นะโอะกิ[1] |
ผู้จัดจำหน่าย | Warner Bros.[1] |
วันฉาย |
|
ความยาว | 135 นาที[1] |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ภาษา | ญี่ปุ่น |
ทำเงิน | US$ 61.7 ล้าน[3] |
รูโรนิ เคนชิน หรือ เคนชิน ซามูไร เอ็กซ์ (ญี่ปุ่น: るろうに剣心; โรมาจิ: Rurouni Kenshin; ทับศัพท์: รุโรลนิ เค็งชิง) เป็นชื่อของภาพยนตร์ญี่ปุ่นซึ่งดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเรื่องเดียวกันของโนะบุฮิโระ วะสึกิ กำกับการแสดงโดยโอโตะโมะ เคชิ นำแสดงโดยซะโต ทะเกะรุ และทะเกะอิ เอะมิ จัดจำหน่ายในต่างประเทศโดย Warner Bros. เนื้อหาของภาพยนตร์จับประเด็นอยู่ที่เหตุการณ์สมมุติในช่วงต้นยุคเมจิของญี่ปุ่น บอกเล่าเรื่องราวของชายพเนจรผู้มีชื่อว่าฮิมุระ เคนชิน ซึ่งมีอดีตเป็นมือสังหารสมญานาม "มือพิฆาตบัตโตไซ" หลังสิ้นสุดสงครามยุคบะกุมะสึแล้ว เคนชินได้ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือและปกป้องผู้อื่นไปทั่วญี่ปุ่น ( เมียฉันเปงคงน่ารัก )เพื่อไถ่บาปที่ตนได้พรากชีวิตผู้คนไปมากมายเมื่อครั้งยังเป็นมือสังหาร
ก่อนมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับการดัดแปลงมังงะเรื่องนี้เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงจริง (live-action) หนังสือพิมพ์ซังเกะอิ สปอร์ต (Sankei Sports) ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคณะผู้สร้างมีเป้าหมายที่จะจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในต่างประเทศและจะสร้างเป็นภาพยนตร์ชุด ซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นการดัดแปลงมังงะเรื่องดังกล่าวเป็นภาพยนตร์แบบ live-action เป็นครั้งแรก ในระหว่างการผลิตนั้น โนะบุฮิโระ (เจ้าของผลงานต้นฉบับ) ได้เสนอแนวคิดของตนเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และได้มีการนำไปปรับใช้ในระหว่างการถ่ายทำอีกด้วย[4]
รูโรนิ เคนชิน ได้เริ่มฉายรอบปฐมฤกษ์ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ทำรายได้ในประเทศ 36 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการฉายทั่วโลก (ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012) ต่อมาได้จัดจำหน่ายในรูปแบบ DVD ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2012[5] ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีการมอบสิทธิ์เพื่อการจัดจำหน่ายและเผยแพร่กว่า 60 ประเทศ ทั้งในยุโรป, ละตินอเมริกา และทวีปเอเชีย[6]
สำหรับประเทศไทย บริษัทสหมงคลฟิล์มเป็นผู้นำเข้ามาฉายในประเทศไทยโดยใช้ชื่อเรื่องว่า "เคนชิน ซามูไร X" (เคนชิน ซามูไร เอ็กซ์) ตามชื่อจัดจำหน่าย "Samurai X" ในภาคภาษาอังกฤษ ถึงแม้คนไทยจะคุ้นเคยกับชื่อ "ซามูไรพเนจร" ซึ่งเป็นชื่อของมังงะเรื่องนี้ฉบับลิขสิทธิ์แปลภาษาไทยของสยามอินเตอร์คอมิกส์มากกว่าก็ตาม โดยเริ่มฉายในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) [7] แต่เมื่อมีการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ฉบับภาษาไทยในรูปแบบ DVD โดย Happy Home ได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรื่องโดยกลับไปใช้การทับศัพท์ชื่อเรื่องในภาคภาษาญี่ปุ่นว่า "รูโรนิ เคนชิน" แทน ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556[8]
โครงเรื่อง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รายชื่อนักแสดง
- ซาโต ทาเครุ (Takeru Satoh)รับบทเป็น ฮิมุระ เคนชิน อดีตมือสังหารผู้สาบานว่าจะไม่ฆ่าใครอีกต่อไป
- ทะเกะอิ เอะมิ รับบทเป็น คามิยะ คาโอรุ ผู้สืบทอดสำนักดาบแห่งหนึ่งจากบิดาผู้ล่วงลับ
- อะโอะกิ มุเนะตะกะ รับบทเป็น ซางาระ ซาโนสุเกะ นักเลงข้างถนนผู้กลายเป็นเพื่อนกับเคนชิน
- คะงะวะ เทะรุยุกิ รับบทเป็น ทาเคดะ คันริว นักธุรกิจผู้ทำทุกอย่างเพื่อเงิน มีเบื้องหลังเป็นผู้บงการองค์กรอาชญากรรม
- อะโอะอิ ยู รับบทเป็น ทากานิ เมกุมิ หนึ่งในผู้ถูกบังคับผลิตฝิ่นให้กับคันริว มีภูมิหลังเป็นลูกหลานของตระกูลแพทย์ที่มีชื่อเสียง
- คิกกะวะ โคะจิ รับบทเป็น อุโด จินเอ ลูกน้องของคันริว และผู้รอดชีวิตจากยุทธการโทะบะ-ฟุชิมิ
- อะยะโนะ โก รับบทเป็น เกอิน ลูกน้องของคันริว
- ซุโดะ เก็งคิ รับบทเป็น อินุอิ บันจิน ลูกน้องของคันริว
- ทะนะกะ ทะเกะโตะ รับบทเป็น เมียวจิน ยาฮิโกะ ลูกศิษย์เพียงคนเดียวในสำนักดาบของคาโอรุ.
- เองุชิ โยซุเกะ รับบทเป็น ไซโต ฮะจิเมะ อดีตหัวหน้าชินเซ็งงุมิหน่วยย่อยที่ 3 ซึ่งทำงานเป็นตำรวจในรัฐบาลเมจิภายใต้นามแฝง "ฟุจิตะ โกะโร"
- โอคุดะ เอจิ รับบทเป็น ยะมะงะตะ อะริโตะโมะ สมาชิกระดับสูงของรัฐบาลเมจิ (ในอดีตเคยเป็นซามูไรระดับแกนนำของคณะปฏิวัติจากแคว้นโจชู) และผู้บังคับบัญชาของไซโต
การผลิต
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การฉาย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ผลตอบรับ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภาคต่อ
เมื่อมีการประกาศสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ครั้งแรก มีรายงานว่าทีมผู้ผลิตภาพยนตร์คาดหวังไว้ว่าจะได้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นภาพยนตร์ชุด[9]
ต่อมานิตยสารจั๊มป์สแควร์ (Jump SQ.) ฉบับประจำเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ได้ประกาศว่าจะมีการฉายภาพยนตร์ภาคต่อของเรื่องนี้ 2 ภาคพร้อมกันในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2014[10][11] ภายใต้ชื่อ รุโรนิ เคนชิน: เกียวโตไทกะเฮ็ง (รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง) และ รุโรนิ เคนชิน: เด็งเซะสึโนะไซโกะเฮ็ง (ซามูไรพเนจร ภาคตำนานบทสุดท้าย) โดยนักแสดงหลัก เช่น ซะโต ทะเกะรุ, ทะเกะอิ เอะมิ และเองุชิ โยซุเกะ ยังคงรับบทเป็นฮิมุระ เคนชิน, คามิยะ คาโอรุ และไซโต ฮะจิเมะ เช่นเดิม นอกจากนี้ในวันที่ 2 กรกฎาคม ยังมีการประกาศว่า ฟุจิวะระ เทะสึยะ จะรับบทเป็นชิชิโอ มาโคโตะ และโอโตะโมะ เคชิ จะรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้ง[12]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 1.7 Young, Deborah (2012-10-06). "Rurouni Kenshin: Busan Review". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
- ↑ Richard, Eisenbeis. "The Live Action Rurouni Kenshin Movie is a Nearly Perfect Film Adaptation". สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ61.7 million
- ↑ Nobuhiro Watsuki interview
- ↑ Julian, Mark. "RUROUNI KENSHIN Sequel Greenlit, North American Premiere Date Announced". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-10. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
- ↑ "Live-Action Rurouni Kenshin Film Licensed in 60+ Countries". สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
- ↑ "Samurai X เคนชิน ซามูไร X". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-10. สืบค้นเมื่อ 2013-11-13.
- ↑ "Rurouni Kenshin /รูโรนิ เคนชิน". สืบค้นเมื่อ 2013-11-13.
- ↑ "Sankei Sports: Rurouni Kenshin Manga Gets Live-Action". Anime News Network. 2011-06-27. สืบค้นเมื่อ 2013-04-14.
- ↑ "Rurouni Kenshin Gets 2 New Live-Action Kyoto Arc Films". Anime News Network. 2013-06-29. สืบค้นเมื่อ 2013-07-31.
- ↑ ""Rurouni Kenshin" Sequel Announced: Takeru Satoh Takes on Tatsuya Fujiwara in Kyoto Arc!". Otakumode.com. 2013-07-14. สืบค้นเมื่อ 2013-07-17.
- ↑ "Death Note's Tatsuya Fujiwara Added to New Live-Action Rurouni Kenshin Films' Cast". Anime News Network. 2013-07-02. สืบค้นเมื่อ 2013-07-31.