ข้ามไปเนื้อหา

รัฐพักรบ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(ต่าง) ←รุ่นเก่ากว่านี้ | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นที่ใหม่กว่า → (ต่าง)
รัฐพักรบ

الإمارات المتصالحة (อาหรับ)
Trucial States (อังกฤษ)
ค.ศ. 1820–ค.ศ. 1971
ธงชาติรัฐพักรบ
ธงสภารัฐพักรบ
สถานะรัฐมหาราชาแห่งบริติชอินเดีย (จนถึง ค.ศ. 1947)
รัฐในอารักขาของสหราชอาณาจักร
เมืองหลวงอาบูดาบี
ภาษาทั่วไปอาหรับ, อังกฤษ
เดมะนิมชาวรัฐพักรบ
การปกครองสมาพันธ์ชนเผ่า
ประวัติศาสตร์ 
8 มกราคม ค.ศ. 1820
• สัญญาสงบศึกทางทะเลถาวร
ค.ศ. 1853
• สภารัฐพักรบ
ค.ศ. 1952
• สิ้นสุด
1 ธันวาคม ค.ศ. 1971
• สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
2 ธันวาคม ค.ศ. 1971
ก่อนหน้า
ถัดไป
รัฐอาบูดาบี
รัฐอัจญ์มาน
รัฐดูไบ
รัฐเราะซุลคัยมะฮ์
รัฐชัรญะฮ์
รัฐอุมม์อัลกุเวน
รัฐฟุญัยเราะฮ์
อัลญะซีเราะฮ์อัลฮัมรา
อะร์รัม
กัตต์
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รัฐพักรบ (อังกฤษ: Trucial States; อาหรับ: الإمارات المتصالحة) หรือ ชายฝั่งพักรบ (อังกฤษ: Trucial Coast; อาหรับ: الساحل المتصالح) เป็นกลุ่มรัฐเชคทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเปอร์เซีย ภายหลังรัฐเหล่านี้ได้ร่วมลงนามสงบศึกกับรัฐบาลบริเตน จึงถูกเรียกว่ารัฐพักรบหรือรัฐสงบศึก และเข้าเป็นรัฐในอารักขาของบริเตนตั้งแต่ ค.ศ. 1820 ใน ค.ศ. 1971 รัฐพักรบประกาศเอกราชและกลายเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปัจจุบัน

รัฐพักรบประกอบด้วยเจ็ดรัฐ ได้แก่ รัฐอาบูดาบี รัฐอัจญ์มาน รัฐดูไบ รัฐฟุญัยเราะฮ์ รัฐชัรญะฮ์, รัฐอุมม์อัลกุเวน และรัฐเราะซุลคัยมะฮ์ เดิมบริเตนเรียกดินแดนแถบนี้ว่า "ชายฝั่งโจรสลัด" (Pirate Coast) เพราะมักมีโจรสลัดมาปล้นเรือสินค้าของบริเตน จนในเดือนมกราคม ค.ศ. 1820 ผู้ปกครองรัฐอาบูดาบี รัฐชัรญะฮ์ รัฐอัจญ์มาน และรัฐอุมม์อัลกุเวนได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาทางทะเลทั่วไป ค.ศ. 1820 (General Maritime Treaty of 1820) กับบริเตน[1] โดยมีสาระสำคัญคือห้ามมีโจรสลัดและห้ามการค้าทาส อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งต่อกัน ใน ค.ศ. 1853 รัฐเหล่านี้จึงลงนามในสัญญาสงบศึกทางทะเลถาวร ค.ศ. 1853 (Perpetual Maritime Truce of 1853)[2] ต่อมาบริเตนซึ่งกังวลว่าชาติมหาอำนาจอื่นเช่นฝรั่งเศสและรัสเซียจะเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนแถบนี้ได้ลงนามในสนธิสัญญา ค.ศ. 1892 กับรัฐพักรบ โดยในสนธิสัญญานี้บริเตนจะคุ้มครองรัฐพักรบทั้งทางภาคพื้นดินและทางทะเล แลกกับการที่รัฐพักรบต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับบริเตนเป็นหลัก สนธิสัญญานี้ทำให้รัฐพักรบกลายเป็นรัฐในอารักขาของบริเตน[3]

ใน ค.ศ. 1968 บริเตนประกาศจะยกเลิกรัฐพักรบ ผู้ปกครองของแต่ละรัฐของรัฐพักรบจึงประชุมกันเพื่อจัดการกับการปกครองหลังบริเตนถอนทหารออกไป ในการประชุมครั้งแรกรัฐเอมิเรตต่าง ๆ รวมถึงรัฐกาตาร์และรัฐบาห์เรนจะรวมตัวกันเป็นสหภาพ แต่ต่อมารัฐกาตาร์ รัฐบาห์เรน และรัฐเราะซุลคัยมะฮ์ประกาศถอนตัว จึงเหลือ 6 รัฐเอมิเรตที่ร่วมลงนามในข้อตกลงสหภาพในวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1971[4]

ต่อมาในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1971 รัฐดูไบ รัฐอาบูดาบี รัฐชัรญะฮ์ รัฐอัจญ์มาน รัฐอุมม์อัลกุเวน และรัฐฟุญัยเราะฮ์ได้ร่วมกันจัดตั้งเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[5] รัฐเราะซุลคัยมะฮ์เข้าร่วมกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในภายหลังเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972[6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Admirals of the World: A Biographical Dictionary, 1500 to the Present by William Stewart
  2. "Britain's Informal Empire in the Gulf, 1820–1971 by James Onley" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-11-30.
  3. Country Profile: United Arab Emirates - Library of Congress
  4. A Political Chronology of the Middle East by Europa Publications
  5. United Arab Emirates profile - Timeline - BBC News
  6. "The Historical Background and Constitutional Basis to the Federation" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-10-15. สืบค้นเมื่อ 2015-11-30.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ รัฐพักรบ