ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สหภาพโซเวียต"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ComeToFly (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ComeToFly (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 181: บรรทัด 181:
== การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ==
== การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ==
[[ไฟล์:Boris Yeltsin 19 August 1991-1.jpg |thumb|right|250px|[[บอริส เยลซิน]] ยืนท้าทายคณะรัฐประหารอยู่ด้านหน้าทำเนียบขาว วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1991]]
[[ไฟล์:Boris Yeltsin 19 August 1991-1.jpg |thumb|right|250px|[[บอริส เยลซิน]] ยืนท้าทายคณะรัฐประหารอยู่ด้านหน้าทำเนียบขาว วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1991]]
เมื่อ [[มิคาอิล กอร์บาชอฟ]]ได้ขึ้นครองอำนาจเขาได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจในสหภาพโซเวียตที่เรียกว่าแผน "เปเรสตรอยกา" (Perestroika) ที่ให้อิสระเสรีแก่ประชาชนมากขึ้น เปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ให้เสรีภาพแก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่มีผู้นำโซเวียตคนใดทำมาก่อน นอกจากนี้ เขาได้ดำเนินโยบายถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ในปีค.ศ.1988 การปฏิรูปของกอร์บาชอฟได้ส่งผลให้เกิดกฎหมาย "Law on Cooperatives" ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครังใหญ่ที่สุดตั้งแต่ สมัยเลนิน กฎหมายนี้ได้อนุญาตให้ประชาชนมีทรัพย์สินส่วนบุคคล และดำเนินกิจการเอกชนได้ ซึ่งขัดต่อ[[ลัทธิมาร์กซ์]]อย่างสิ้นเชิง ทำให้สมาชิกส่วนหนึ่งในพรรคคอมมิวนิสต์เกิดความไม่พอใจกอร์บาชอฟ และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1990 ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ได้เห็นชอบยกเลิกการรวมอำนาจไว้ที่พรรคคอมมิวนิสต์ นั่นหมายถึงพรรคคอมมิวนิสต์ได้กระจายอำนาจสู่ประชาชนและทำให้เกิดการเลือกตั้ง ส่งผลให้อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา รัฐย่อยของ 15 รัฐของสหภาพโซเวียตได้รับรองกฎหมายเลือกตั้งทั่วไป และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียในปี ค.ศ.1991 คือ[[บอริส เยลซิน]] ได้คะแนนสูงสุดถึง 57.3 เปอร์เซนต์(มีการเลือกตั้งในวันที่12 มิถุนายน ค.ศ.1991) เนื่องจากกอร์บาชอฟมีความพยายามที่จะลดความเป็นศูนย์กลางอำนาจของสหภาพโซเวียตสหภาพโซเวียตตึงได้มีแผนจะผ่านสนธิสัญญา"Union of Soviet Sovereign Republics" หรือ "New Union Treaty" ซึ่งจะมาแทน สนธิสัญญาการก่อตั้งสหภาพโซเวียต ปี ค.ศ.1922 ซึ่งมีแผนจะลงนามในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ.1991 มีเนื้อหาโดยรวมคือสหภาพโซเวียตจะถูกแปลงเป็นสหพันธรัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง มีประธานาธิบดีเป็นผู้นำของรัฐนั้นๆ จนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่สมาชิกซ้ายจัดของพรรคคอมมิวนิสต์ จึงเกิดความพยายามที่จะยึดอำนาจการบริการจากกอร์บาชอฟ เรียกการรัฐประหารครั้งนั้นว่า "The August Coup" แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากเกิดการต่อต้านจากประชาชนส่วนมากในประเทศและเยลต์ซินสามารถกู้สถานการณ์เอาไว้ได้ ผลคือ คณะรัฐประหารถูกจับกุมและถูกสังหาร สนธิสัญญาถูกเห็นชอบ หลังจากผ่านสนธิสัญญารัฐย่อยต่างๆของสหภาพโซเวียตซึ่งมีความพยายามจะแยกตัวมากก่อนหน้านี้แล้ว ได้มีการลงประชามติเห็นชอบการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต รัฐย่อยต่างๆจึงได้แยกตัวจากสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์ ท้ายสุดในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.1991 กอร์บาชอฟได้เห็นชอบโอนอำนาจการบริหารทั้งหมดจากประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต ให้กับ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และในคืนวันนั้นธงชาติสหภาพโซเวียตได้ถูกเชิญลงจากยอดเสาที่[[เครมลิน]] อันเป็นการสิ้นสุดสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์
เมื่อ [[มิคาอิล กอร์บาชอฟ]]ได้ขึ้นครองอำนาจเขาได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจในสหภาพโซเวียตที่เรียกว่าแผน "เปเรสตรอยกา" (Perestroika) ที่ให้อิสระเสรีแก่ประชาชนมากขึ้น เปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ให้เสรีภาพแก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่มีผู้นำโซเวียตคนใดทำมาก่อน นอกจากนี้ เขาได้ดำเนินโยบายถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ในปีค.ศ.1988 การปฏิรูปของกอร์บาชอฟได้ส่งผลให้เกิดกฎหมาย "Law on Cooperatives" ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครังใหญ่ที่สุดตั้งแต่ สมัยเลนิน กฎหมายนี้ได้อนุญาตให้ประชาชนมีทรัพย์สินส่วนบุคคล และดำเนินกิจการเอกชนได้ ซึ่งขัดต่อ[[ลัทธิมาร์กซ์]]อย่างสิ้นเชิง ทำให้สมาชิกส่วนหนึ่งในพรรคคอมมิวนิสต์เกิดความไม่พอใจกอร์บาชอฟ และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1990 ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ได้เห็นชอบยกเลิกการรวมอำนาจไว้ที่พรรคคอมมิวนิสต์ นั่นหมายถึงพรรคคอมมิวนิสต์ได้กระจายอำนาจสู่ประชาชนและทำให้เกิดการเลือกตั้ง ส่งผลให้อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา รัฐย่อยของ 15 รัฐของสหภาพโซเวียตได้รับรองกฎหมายเลือกตั้งทั่วไป และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียในปี ค.ศ.1991 คือ[[บอริส เยลซิน]] ได้คะแนนสูงสุดถึง 57.3 เปอร์เซนต์(มีการเลือกตั้งในวันที่12 มิถุนายน ค.ศ.1991) เนื่องจากกอร์บาชอฟมีความพยายามที่จะลดความเป็นศูนย์กลางอำนาจของสหภาพโซเวียตสหภาพโซเวียตตึงได้มีแผนจะผ่านสนธิสัญญา"Union of Soviet Sovereign Republics" หรือ "New Union Treaty" ซึ่งจะมาแทน สนธิสัญญาการก่อตั้งสหภาพโซเวียต ปี ค.ศ.1922 ซึ่งมีแผนจะลงนามในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ.1991 มีเนื้อหาโดยรวมคือสหภาพโซเวียตจะถูกแปลงเป็นสหพันธรัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง มีประธานาธิบดีเป็นผู้นำของรัฐนั้นๆ จนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่สมาชิกซ้ายจัดของพรรคคอมมิวนิสต์ จึงเกิดความพยายามที่จะยึดอำนาจการบริการจากกอร์บาชอฟ เรียกการรัฐประหารครั้งนั้นว่า "The August Coup" แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากเกิดการต่อต้านจากประชาชนส่วนมากในประเทศและเยลต์ซินสามารถกู้สถานการณ์เอาไว้ได้ ผลคือ คณะรัฐประหารถูกจับกุมและถูกสังหาร สนธิสัญญาถูกเห็นชอบ หลังจากผ่านสนธิสัญญารัฐย่อยต่างๆของสหภาพโซเวียตซึ่งมีความพยายามจะแยกตัวมากก่อนหน้านี้แล้ว ได้มีการลงประชามติเห็นชอบการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต รัฐย่อยต่างๆจึงได้แยกตัวจากสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์ ท้ายสุดในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.1991 กอร์บาชอฟได้เห็นชอบโอนอำนาจการบริหารทั้งหมดจากประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต ให้กับ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และในคืนวันนั้นธงชาติสหภาพโซเวียตได้ถูกเชิญลงจากยอดเสาที่[[เครมลิน]] อันเป็นการสิ้นสุดสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:15, 8 มิถุนายน 2552

สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต

อักษรซีริลลิก: Союз Советских Социалистических Республик¹
อักษรโรมัน: Soyuz Sovetskikh Sotsialisticheskikh Respublik¹
โซยุซ โซเวตสคิค โซเซียลิสตีเชสคิค เรสปูบลิค
พ.ศ. 24652534
คำขวัญПролетарии всех стран, соединяйтесь!
(ถ่ายตัวอักษร: Proletarii vsekh stran, soedinyaytes!)
(แปล: ชนชั้นกรรมาชีพทั่วโลกจงรวมกันเข้า!)
ที่ตั้งของสหภาพโซเวียต
สถานะสหพันธรัฐ
เมืองหลวงมอสโก
ภาษาทั่วไปภาษารัสเซีย (ภาษาราชการโดยพฤตินัย) และอีก 14 ภาษาราชการ
การปกครองสาธารณรัฐสังคมนิยม
ผู้นำ 
• 2465-2467
วลาดิมีร์ เลนิน
• 2467-2496
โจเซฟ สตาลิน
• 2496-2507
นิกิตา ครุสชอฟ
• 2507-2525
เลโอนิด เบรจเนฟ
• 2525-2526
ยูริ อันโดรปอฟ
• 2526-2528
คอนสตันติน เชียร์เนนโค
• 2528-2534
มิคาอิล กอร์บาชอฟ
ประวัติศาสตร์ 
• การปฏิวัติเดือนตุลาคม
23 ต.ค. 2460
• ก่อตั้ง
30 ธ.ค. 2465 พ.ศ. 2465
9 พ.ค. 2488
4 ต.ค. 2500
19 ส.ค. 2534
25 ธันวาคม 2534
พื้นที่
253422,402,200 ตารางกิโลเมตร (8,649,500 ตารางไมล์)
ประชากร
• 2534
293047571
สกุลเงินรูเบิลโซเวียต (SUR)
เขตเวลาUTC+2 to +13
รหัสโทรศัพท์7
โดเมนบนสุด.su
ก่อนหน้า
ถัดไป
จักรวรรดิรัสเซีย
สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตทรานส์คอเคเซีย
สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน
สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตไบโลรัสเซีย
ประเทศรัสเซีย
เบลารุส ไฟล์:Flag of Belarus 1991.svg
ยูเครน
มอลโดวา
ประเทศจอร์เจีย
ประเทศอาร์เมเนีย
อาเซอร์ไบจาน
คาซัคสถาน
อุซเบกิสถาน
เติร์กเมนิสถาน
คีร์กีซสถาน
ทาจิกิสถาน
เอสโตเนีย
ลัตเวีย
ลิทัวเนีย
¹ชื่อทางการของสหภาพโซเวียต

สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (รัสเซีย: Сою́з Сове́тских Социалисти́ческих Респу́блик - CCCP; อังกฤษ: The Union of Soviet Socialist Republics - USSR) นิยมเรียกสั้นว่า สหภาพโซเวียต (อังกฤษ: Soviet Union) เคยเป็นประเทศขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของทวีปยูเรเชีย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) อยู่มาจนกระทั่งล่มสลายในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991)

การก่อตัวของสหภาพโซเวียตเกิดขึ้นเมื่อการปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917 ถึงจุดสูงสุด โค่นล้มการปกครองของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 สหภาพโซเวียตเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศแรกของโลก โดยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของกลุ่มบอลเชวิค (ต่อมาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต) เมื่อปี พ.ศ. 2460 (ค.ศ. 1917) องค์กรทางการเมืองที่ปกครองประเทศมีพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายต่าง ๆ รวมทั้งนโยบายต่างประเทศ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตได้ทำการก่อตั้งรัฐสังคมนิยมในประเทศที่โซเวียตยึดครองจากฝ่ายนาซีในแนวรบด้านตะวันออก จนเกิดเป็นโลกตะวันออกซึ่งเป็นหนึ่งขั้วมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็น

เขตแดนของสหภาพโซเวียตเปลี่ยนแปลงเสมอ ก่อนการล่มสลายมีเขตแดนอยู่ในแนวใกล้เคียงกับปลายยุคจักรวรรดิรัสเซีย ไม่รวมประเทศโปแลนด์และฟินแลนด์ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับนอร์เวย์ ฟินแลนด์ โปแลนด์ ฮังการี บัลแกเรีย โรมาเนีย เชโกสโลวาเกีย ตุรกี อิหร่าน อัฟกานิสถาน จีน มองโกเลีย และเกาหลีเหนือ อีกทั้งยังมีพรมแดนทางทะเลใกล้กับมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกาด้วย

การก่อกำเนิดสหภาพโซเวียต

ไฟล์:Lenin portrait.jpg
วลาดิมีร์ เลนินผู้นำการปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917

สหภาพโซเวียตถูกก่อตั้งมาจากการยึดอำนาจของพรรคบอลเชวิก โดยยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 นำโดย วลาดิมีร์ เลนิน (ผู้นำของสหภาพโซเวียตคนแรก) เรียกการปฏิวัติครั้งนั้นว่าการปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917 เกิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2465 (1917) ซึ่งอยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 การปฏิวัติครั้งนั้นส่งผลให้ รัฐบาลของกษัตริย์ถูกยกเลิก ระบอบการปกครองโดยกษัตริย์ถูกยกเลิก ก่อเกิดรัฐสังคมนิยมขึ้นมาแทน และเกิดเหตุการณ์สังการหมู่ราชวงศ์โรมานอฟในเวลาต่อมา ผลอื่นๆคือ กิจการธนาคารและโรงงานทั้งหมดถูกโอนเป็นของรัฐ และบัญชีส่วนบุคคลทั้หมดถูกโอนให้แก่รัฐ และสหภาพโซเวียตถอนตัวออกจากสงครามโลกครั้งที่ 1

นโยบายต่างประเทศของสหภาพโซเวียต

หลักการในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของสหภาพโซเวียต

  1. อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ เป็นองค์ประกอบตายตัวในนโยบายต่างประเทศ อาจมีการผ่อนปรนในบางครั้ง ถ้าเห็นว่าผลประโยชน์สำคัญของชาติ (Vital National Interest) นั้นมีความสำคัญกว่า บางครั้งอาจจะต้องชลอเพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่งไปสู่ชัยชนะของการปฏิวัติโลก
  2. ยุทธศาสตร์โซเวียต
  3. ทิศทางปฏิบัติการ เป็นความพยายามเชื่อมต่อปฏิบัติการย่อยๆเข้าด้วยกัน เพื่อให้ยุทธวิธีมีความเป็นเอกภาพ มีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายต่างประเทศมากกว่ายุทธศาสตร์ เป้าหมายเพื่อการเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ และบรรลุอุดมการณ์คอมมิวนิสต์

นโยบายต่างประเทศของสหภาพโซเวียตสามารถแบ่งได้เป็น3ยุค คือ

  1. นโยบายต่างประเทศก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
  2. นโยบายต่างประเทศของโซเวียตยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 1945 -1985 สามารถแบ่งได้ดังนี้
    1. นโยบายต่างประเทศหลังสงครามโลกครังที่ 2
    2. นโยบายต่างประเทศหลังทศวรรศที่ 1970s
  3. นโยบายต่างประเทศของโซเวียตช่วงก่อนการล่มสลาย

ยุทธศาสตร์โซเวียต

  • เป็นศิลปที่มุ่งที่จะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงที่สุดแก่โซเวียตเท่าที่ทำได้ในสภาวะจำกัด เพื่อรับใช้อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ จะแปรเปลี่ยนไปตามขั้นตอน อาจจะรุกไปข้างหน้าหรือถอยไปข้างหลังเพื่อรอจังหวะ โดยดำเนินการทั้งยุทธศาสตร์ทางตรง ได้แก่ การใช้กำลัง และยุทธศาสตร์ทางอ้อม เช่นทางจิตวิทยาหรือโฆษณาชวนเชื่อ

ประเทศที่แยกตัวจาก สหภาพโซเวียต

สหภาพโซเวียต ล่มสลายเมื่อปี 1991 ทำให้สาธารณรัฐต่าง ๆ แบ่งแยกตั้งเป็นประเทศทั้งหมด 15 ประเทศ หลังจากการแยกตัวออกมาปกครองอย่างเอกเทศแล้ว ประเทศเหล่านี้ยังมีการรวมกลุ่มกันเป็น Commonwealth of Independent States (CIS) ยกเว้น เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย

แผนที่สหภาพโซเวียตเมื่อปี พ.ศ. 2532
  1. ประเทศเอสโตเนีย
  2. ประเทศลัตเวีย
  3. ประเทศลิทัวเนีย
  4. ประเทศเบลารุส
  5. ประเทศยูเครน
  6. ประเทศรัสเซีย
  7. ประเทศอาร์เมเนีย
  8. ประเทศอาเซอร์ไบจาน
  9. ประเทศคาซัคสถาน
  10. ประเทศคีร์กีซสถาน
  11. ประเทศมอลโดวา
  12. ประเทศทาจิกิสถาน
  13. ประเทศเติร์กเมนิสถาน
  14. ประเทศอุซเบกิสถาน
  15. ประเทศจอร์เจีย

วันหยุด

วันที่ ชื่อ ชื่อประจำท้องถิ่น หมายเหตุ
1 มกราคม วันปีใหม่ Новый Год
7 มกราคม วันคริสต์มาส Рождество วันคริสต์มาสตามนิกายออเทอร์ดอกซ์ ไม่ใช่วันหยุดประจำชาติ ในสหภาพโซเวียด
23 กุมภาพันธ์ วันทหารแดง День Советской Армии и Военно-Морского Флота ("วันกองทหารแห่งโซเวียด") เพื่อรำลึกการก่อตั้ง กองทัพแดง ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1918 ขณะนี้รัสเซียเรียกวันนี้ว่า День Защитника Отечества
8 มีนาคม วันสตรีสากล Международный Женский День วันหยุดสากลให้แก่ความเท่าเทียมทางเพศแก่สตรี

การล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ไฟล์:Boris Yeltsin 19 August 1991-1.jpg
บอริส เยลซิน ยืนท้าทายคณะรัฐประหารอยู่ด้านหน้าทำเนียบขาว วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.1991

เมื่อ มิคาอิล กอร์บาชอฟได้ขึ้นครองอำนาจเขาได้ดำเนินนโยบายปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจในสหภาพโซเวียตที่เรียกว่าแผน "เปเรสตรอยกา" (Perestroika) ที่ให้อิสระเสรีแก่ประชาชนมากขึ้น เปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ให้เสรีภาพแก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่มีผู้นำโซเวียตคนใดทำมาก่อน นอกจากนี้ เขาได้ดำเนินโยบายถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ในปีค.ศ.1988 การปฏิรูปของกอร์บาชอฟได้ส่งผลให้เกิดกฎหมาย "Law on Cooperatives" ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครังใหญ่ที่สุดตั้งแต่ สมัยเลนิน กฎหมายนี้ได้อนุญาตให้ประชาชนมีทรัพย์สินส่วนบุคคล และดำเนินกิจการเอกชนได้ ซึ่งขัดต่อลัทธิมาร์กซ์อย่างสิ้นเชิง ทำให้สมาชิกส่วนหนึ่งในพรรคคอมมิวนิสต์เกิดความไม่พอใจกอร์บาชอฟ และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1990 ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ได้เห็นชอบยกเลิกการรวมอำนาจไว้ที่พรรคคอมมิวนิสต์ นั่นหมายถึงพรรคคอมมิวนิสต์ได้กระจายอำนาจสู่ประชาชนและทำให้เกิดการเลือกตั้ง ส่งผลให้อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา รัฐย่อยของ 15 รัฐของสหภาพโซเวียตได้รับรองกฎหมายเลือกตั้งทั่วไป และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียในปี ค.ศ.1991 คือบอริส เยลซิน ได้คะแนนสูงสุดถึง 57.3 เปอร์เซนต์(มีการเลือกตั้งในวันที่12 มิถุนายน ค.ศ.1991) เนื่องจากกอร์บาชอฟมีความพยายามที่จะลดความเป็นศูนย์กลางอำนาจของสหภาพโซเวียตสหภาพโซเวียตตึงได้มีแผนจะผ่านสนธิสัญญา"Union of Soviet Sovereign Republics" หรือ "New Union Treaty" ซึ่งจะมาแทน สนธิสัญญาการก่อตั้งสหภาพโซเวียต ปี ค.ศ.1922 ซึ่งมีแผนจะลงนามในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ.1991 มีเนื้อหาโดยรวมคือสหภาพโซเวียตจะถูกแปลงเป็นสหพันธรัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง มีประธานาธิบดีเป็นผู้นำของรัฐนั้นๆ จนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่สมาชิกซ้ายจัดของพรรคคอมมิวนิสต์ จึงเกิดความพยายามที่จะยึดอำนาจการบริการจากกอร์บาชอฟ เรียกการรัฐประหารครั้งนั้นว่า "The August Coup" แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากเกิดการต่อต้านจากประชาชนส่วนมากในประเทศและเยลต์ซินสามารถกู้สถานการณ์เอาไว้ได้ ผลคือ คณะรัฐประหารถูกจับกุมและถูกสังหาร สนธิสัญญาถูกเห็นชอบ หลังจากผ่านสนธิสัญญารัฐย่อยต่างๆของสหภาพโซเวียตซึ่งมีความพยายามจะแยกตัวมากก่อนหน้านี้แล้ว ได้มีการลงประชามติเห็นชอบการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต รัฐย่อยต่างๆจึงได้แยกตัวจากสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์ ท้ายสุดในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.1991 กอร์บาชอฟได้เห็นชอบโอนอำนาจการบริหารทั้งหมดจากประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต ให้กับ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และในคืนวันนั้นธงชาติสหภาพโซเวียตได้ถูกเชิญลงจากยอดเสาที่เครมลิน อันเป็นการสิ้นสุดสหภาพโซเวียตอย่างสมบูรณ์

แหล่งข้อมูลอื่น


แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA