ข้ามไปเนื้อหา

ทรานส์นีสเตรีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Transnistria)
สาธารณรัฐมอลเดเวียพรีดเนสโตรวี

เพลงชาติ
Мы славим тебя, Приднестровье
My slavim tebya, Pridnestrovie
"เราร้องเพลงสรรเสริญทรานส์นีสเตรีย"[2]
ที่ตั้งของทรานส์นีสเตรีย
สถานะ
เมืองหลวง
และเมืองใหญ่สุด
ตีรัสปอล
46°50′25″N 29°38′36″E / 46.84028°N 29.64333°E / 46.84028; 29.64333
ภาษาราชการ
ภาษากลางรัสเซีย[4][5][6]
กลุ่มชาติพันธุ์
เดมะนิม
  • ชาวทรานส์นีสเตรีย
  • ชาวพรีดเนสโตรวี
การปกครองสาธารณรัฐรัฐเดี่ยว ระบอบกึ่งประธานาธิบดี
วาดีม คราซโนเซสกี
อะเลคซันดร์ รอเซนเบิร์ก
อะเลคซันดร์ คอร์ชูนอฟ
สภานิติบัญญัติสภาสูงสุด
รัฐที่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์
2 กันยายน ค.ศ. 1990
• ประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียต
25 กันยายน ค.ศ. 1991
5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991[7]
2 มีนาคม – 21 กรกฎาคม
ค.ศ. 1992
• ได้รับการรับรอง
3 สมาชิกที่ไม่ใช่สมาชิกของสหประชาชาติc
พื้นที่
• รวม
4,163 ตารางกิโลเมตร (1,607 ตารางไมล์)
2.35
ประชากร
• มกราคม ค.ศ. 2022 ประมาณ
ลดลงเป็นกลาง 347,251 (ค่าประมาณของมอลโดวา)[8]
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2015
ลดลงเป็นกลาง 475,373[9]
73.5 ต่อตารางกิโลเมตร (190.4 ต่อตารางไมล์)
จีดีพี (ราคาตลาด) ค.ศ. 2012[10] (ประมาณ)
• รวม
1.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
3,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินรูเบิลทรานส์ทีสเตรียd (PRB)
เขตเวลาUTC+2 (เวลายุโรปตะวันออก)
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)
UTC+3 (เวลาออมแสงยุโรปตะวันออก)
รหัสโทรศัพท์+373e
  1. ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการหลัก
  2. ภาษาโรมาเนียมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าภาษามอลโดวาในทรานส์นิสเตรียและเขียนด้วยอักษรซีริลลิกมอลโดวา
  3. จำกัดเฉพาะเซาท์ออสซีเชีย, สาธารณรัฐอับคาเซีย และ สาธารณรัฐอาร์ทซัค (ดูเพิ่มที่ชุมชนเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิของชาติ)
  4. สกุลเงินเล็วมอลโดวาใช้ในพื้นที่เหล่านั้นภายใต้การควบคุมของมอลโดวาและในเขตรักษาความปลอดภัย
  5. +373 5 และ +373 2

ทรานส์นีสเตรีย (อังกฤษ: Transnistria) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐมอลเดเวียพรีดเนสโตรวี (Pridnestrovian Moldavian Republic) เป็นรัฐแยกตัวออกมาที่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าเป็นส่วนหนึ่งของมอลโดวา ทรานส์นีสเตรียควบคุมพื้นที่แคบส่วนใหญ่ระหว่างแม่น้ำนีสเตอร์ และชายแดนมอลโดวา - ยูเครน รวมถึงดินแดนบางส่วนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ ตีรัสปอลเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุด ทรานส์นีสเตรียมีสามประเทศเท่านั้นที่ให้การรับรองเอกราช ได้แก่ เซาท์ออสซีเชีย, อับฮาเซีย และอาร์ทซัค[11] (สามประเทศนี้ ประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้การรับรองเช่นกัน) และมีกองทัพรัสเซียคงกำลังทหาร ทรานส์นีสเตรียถูกกำหนดอย่างเป็นทางการโดยสาธารณรัฐมอลโดวาให้เป็นหน่วยปกครองดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำนีสเตอร์ (โรมาเนีย: Unitățile Administrativ-Teritoriale din stînga Nistrului)[12] หรือ Stînga Nistrului ("ฝั่งซ้ายของแม่น้ำนีสเตอร์")[13][14][15] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 สมัชชารัฐสภาแห่งสภายุโรปได้ลงมติซึ่งกำหนดให้ทรานส์นีสเตรียเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองทางทหารของรัสเซีย[16]

ภูมิหลังของภูมิภาคนี้สามารถสืบย้อนไปถึงสาธารณรัฐปกครองตนเองสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1924 ภายในสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพโซเวียตได้เข้ายึดส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐปกครองตนเองมอลเดเวียที่ถูกยุบและเบสซาเรเบียของราชอาณาจักรโรมาเนียเพื่อก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียใน ค.ศ. 1940 ประวัติศาสตร์ปัจจุบันของภูมิภาคนี้เริ่มมีใน ค.ศ. 1990 ระหว่างการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียพรีดเนสโตรวี ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยความหวังว่าจะยังคงอยู่ในสหภาพโซเวียตหากมอลโดวาแสวงหาการรวมเป็นหนึ่งกับโรมาเนียหรือเป็นเอกราชที่ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1991 หลังจากนั้นไม่นาน ความขัดแย้งทางทหารระหว่างสองฝ่ายเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1992 และจบลงด้วยการหยุดยิงในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน

ตามข้อตกลงหยุดยิง คณะกรรมการควบคุมร่วมสามฝ่าย (รัสเซีย มอลโดวา และทรานส์นิสเตรีย) กำกับดูแลการจัดการด้านความมั่นคงในเขตปลอดทหาร ซึ่งประกอบด้วย 20 ท้องที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ แม้ว่าจะมีการหยุดยิงแล้ว แต่สถานะทางการเมืองของดินแดนนั้นยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทรานส์นิสเตรียเป็นสาธารณรัฐระบบประธานาธิบดีอิสระโดยพฤตินัยที่ไม่ได้รับการรับรอง[17] โดยมีรัฐบาล รัฐสภา กองทัพ ตำรวจ ระบบไปรษณีย์ สกุลเงิน และทะเบียนรถเป็นของตัวเอง[18][19][20][21] ทางการได้นำรัฐธรรมนูญ ธงชาติ เพลงชาติ และตราแผ่นดินมาใช้ หลังจากข้อตกลงระหว่างมอลโดวาและยูเครนใน ค.ศ. 2005 บริษัททั้งหมดของทรานส์นีสเตรียที่พยายามส่งออกสินค้าผ่านชายแดนยูเครนจะต้องจดทะเบียนกับทางการมอลโดวา[22] ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้หลังจากภารกิจช่วยเหลือชายแดนของสหภาพยุโรปในมอลโดวาและยูเครน (EUBAM) มีผลบังคับใช้ใน ค.ศ. 2005[23] ชาวทรานส์นิสเตรียส่วนใหญ่มีสัญชาติมอลโดวา[24] แต่หลายคนมีสัญชาติรัสเซีย โรมาเนียหรือยูเครน[25][26] กลุ่มชาติพันธุ์หลัก ได้แก่ รัสเซีย มอลโดวา/โรมาเนีย และยูเครน

เช่นกันกับเซาท์ออสซีเชีย, อับฮาเซีย และอาร์ทซัค ทรานส์นีสเตรียเป็นเขต "ความขัดแย้งเยือกแข็ง" ยุคหลังโซเวียต[27][28] รัฐทั้งสี่ที่ได้รับการรับรองหรือไม่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์บางส่วนเหล่านี้รักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับแต่ละอื่น ๆ และก่อตั้งชุมชนเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิของชาติ[29][30][31]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ทรานส์นีสเตรียนำธงไตรรงค์ขาว-น้ำเงิน-แดงมาใช้ใน ค.ศ. 2017 ซึ่งเกือบจะเหมือนกับธงชาติรัสเซีย[1] แต่อัตราส่วนที่ใช้ในธงคือ 1:2 แทนที่จะเป็น 2:3
  2. เป็นเรื่องของการโต้เถียงกันว่าชาวมอลโดวาเหมือนกับชาวโรมาเนียหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน

อ้างอิง

[แก้]
  1. "В ПМР российский флаг разрешили использовать наравне с государственным" (ภาษารัสเซีย). RIA Novosti. 12 April 2017.
  2. Smoltczyk, Alexander (24 April 2014). "Hopes Rise in Transnistria of a Russian Annexation". Der Spiegel. สืบค้นเมื่อ 25 November 2018. The breakaway region has its own military, its own constitution, a national anthem (called "We Sing the Praises of Transnistria") and a symphony orchestra which is known abroad.
  3. "Конституция Приднестровской Молдавской Республики". Официальный сайт Президента ПМР.
  4. "On the situation of Russian schools in Moldova". OSCE. 14 July 2011.
  5. "Law of the Moldavian Soviet Socialist Republic on the Functioning of Languages on the Territory of the Moldavian SSR". U.S. English Foundation Research. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 September 2016.
  6. "Russian language in Moldova could lose their status (Русский язык в Молдове может потерять свой статус)". KORRESPONDENT. 6 April 2013.
  7. สภาโซเวียตสูงสุดเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการของสาธารณรัฐจากสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียพรีดเนสโตรวีเป็นสาธารณรัฐมอลเดเวียพรีดเนสโตรวีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 ดูเพิม: "Postanovlenie verkhovnogo soveta Pridnestrovskoi Moldavskoi Respubliki ob izmenenii nazvaniia respubliki," Dnestrovskaia pravda, 6 November 1991, 1.
  8. "Peste 338 mii de locuitori din regiunea Transnistria, dețin cetățenia Republicii Moldova". www.gov.md/ro. Guvernul Republicii Moldova (Biroul Politici de Reintegrare). 3 January 2022. สืบค้นเมื่อ 3 January 2022.
  9. Перепись населения ПМР [Population census of PMR]. newspmr.com (ภาษารัสเซีย). 9 March 2017. สืบค้นเมื่อ 23 January 2021.
  10. "An aided economy. The characteristics of the Transnistrian economic model". Osw.waw.pl. 16 May 2013. สืบค้นเมื่อ 2022-06-24.
  11. About Abkhazia – Abkhazia.info เก็บถาวร 21 กรกฎาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. English translation: Google translator. Link was not available/working 21 December 2014.
  12. Law No. 173 from 22 July 2005 "About main notes about special legal status of settlements of left bank of Dnestr (Transnistria)": Romanian เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Russian เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  13. "Moldova. territorial unit: Stinga Nistrului (Transnistria)". CIA World Factbook. CIA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 May 2012. สืบค้นเมื่อ 30 June 2012.
  14. Herd, Graeme P.; Moroney, Jennifer D. P. (2003). Security Dynamics in the Former Soviet Bloc. Routledge. ISBN 0-415-29732-X.
  15. Zielonka, Jan (2001). Democratic Consolidation in Eastern Europe. Oxford University Press. ISBN 0-19-924409-X.
  16. Necsutu, Madalin (16 March 2022). "Council of Europe Designates Transnistria 'Russian Occupied Territory'". balkaninsight.com. Balkan Insight. สืบค้นเมื่อ 19 March 2022.
  17. Article 55 of the Constitution of the Pridnestrovian Moldavian Republic
  18. Jos Boonstra, Senior Researcher, Democratisation Programme, FRIDE. Moldova, Transnistria and European Democracy Policies เก็บถาวร 8 สิงหาคม 2018 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 2007
  19. Hinteregger, Gerald; Heinrich, Hans-Georg (2004). Russia – Continuity and Change. Springer. p. 174. ISBN 3-211-22391-6.
  20. Rosenstiel, Francis; Lejard, Edith; Boutsavath, Jean; Martz, Jacques (2002). Annuaire Europeen 2000/European Yearbook 2000. Martinus Nijhoff Publishers. ISBN 90-411-1844-6.
  21. Bartmann, Barry; Tozun, Bahcheli (2004). De Facto States: The Quest for Sovereignty. Routledge. ISBN 0-7146-5476-0.
  22. European Union Border Assistance Mission to Moldova and Ukraine (EUBAM) เก็บถาวร 16 ตุลาคม 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, November 2007
  23. "Background – EU Border Assistance Mission to Moldova and Ukraine". Eubam.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 May 2013. สืบค้นเมื่อ 30 May 2013.
  24. Der n-tv Atlas. Die Welt hinter den Nachrichten. Bertelsmann Lexikon Institut. 2008. page 31
  25. "Education and Information – the golden passport for young Transnistrians". 26 September 2019. สืบค้นเมื่อ 30 January 2021.
  26. "Transnistria: Russia's satellite state an open wound in Eastern Europe". Deutsche Welle. 28 May 2019. สืบค้นเมื่อ 30 January 2021.
  27. OSCE: De Gucht Discusses Montenegro Referendum, Frozen Conflicts, GlobalSecurity.org, Radio Free Europe/Radio Liberty, May 2006
  28. Vladimir Socor,"Frozen Conflicts in the Black Sea-South Caucasus Region". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 June 2013. สืบค้นเมื่อ 26 March 2014., IASPS Policy Briefings, 1 March 2004
  29. Абхазия, Южная Осетия и Приднестровье признали независимость друг друга и призвали всех к этому же (ภาษารัสเซีย). Newsru. 17 November 2006. สืบค้นเมื่อ 26 March 2014.
  30. "Head of Foreign Ministry of the Republic of South Ossetia congratulated Minister of Foreign Affairs of the PMR with Sixth Anniversary of Creation of Community for Democracy and Rights of Nations". The Ministry of Foreign Affairs of the PMR. 15 June 2012. สืบค้นเมื่อ 26 March 2014.
  31. Vichos, Ioannis F. "Moldova's Energy Strategy and the 'Frozen Conflict' of Transnistria". Ekemeuroenergy.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

แหล่งข้อมูลท้องถิ่น

[แก้]