ข้ามไปเนื้อหา

ไอแซก เฮย์เดน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(ต่าง) ←รุ่นเก่ากว่านี้ | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นที่ใหม่กว่า → (ต่าง)
ไอแซก เฮย์เดน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ไอแซก สกอต เฮย์เดน[1]
วันเกิด (1995-03-22) 22 มีนาคม ค.ศ. 1995 (29 ปี)
สถานที่เกิด เชล์มสฟอร์ด, อังกฤษ
ส่วนสูง 6 ft 2 in (1.87 m)[2]
ตำแ��น่ง กองกลางตัวรับ, กองหลัง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
สโมสรเยาวชน
Brentwood Boys FC
2004–2008 เซาท์เอนด์ ยูไนเต็ด
2008–2013 อาร์เซนอล
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2013–2016 อาร์เซนอล 0 (0)
2015–2016ฮัลล์ซิตี (ยืม) 18 (1)
2016– นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 151 (6)
2022–2023นอริชซิตี (ยืม) 12 (0)
ทีมชาติ
2010–2011 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 2 (0)
2011–2012 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี 9 (1)
2012 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี 1 (0)
2013–2014 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 5 (0)
2014–2015 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี 5 (0)
2016 อังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 3 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22:16, 13 กุมภาพันธ์ 2023 (UTC)

ไอแซก สกอต เฮย์เดน (อังกฤษ: Isaac Scott Hayden; เกิด 22 มีนาคม 1995) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับให้กับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

ประวัติ

[แก้]

เฮย์เดนเกิดที่เมืองเชล์มสฟอร์ด เอสเซ็กซ์ และเล่นให้กับเซาท์เอนด์ ยูไนเต็ด จนกระทั่งเขาอายุ 13 ปี[3][4] เมื่อเขาย้ายไปลอนดอนเพื่อเข้าร่วมอะคาเดมีของอาร์เซนอล[3][4]

ระดับสโมสร

[แก้]

อาร์เซนอล

[แก้]

เฮย์เดนลงประเดิมสนามให้อาร์เซนอลในรอบที่ 3 ของลีกคัพ เมื่อเดือนกันยายน 2013 พบกับเวสต์บรอมมิชอัลเบียน เขาเริ่มการแข่งขันโดยเล่นในตำแหน่งกองกลางและถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากนาทีที่ 84 และถูกแทนที่โดยคริสทอฟเฟอร์ โอลส์สัน ในที่สุดอาร์เซนอลก็ชนะการดวลจุดโทษที่เดอะฮอว์ทอนส์[5] เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2014 เฮย์เดนลงเล่นนัดที่ 2 ให้กับอาร์เซนอล โดยเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กในลีกคัพรอบที่ 4 ในบ้านที่พ่ายแพ้ต่อเซาแทมป์ตัน 1–2[6]

ฮัลล์ซิตี (ยืม)

[แก้]

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 เฮย์เดนย้ายไปร่วมทีมฮัลล์ซิตีด้วยสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาลเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่[7] เฮย์เดนเปิดตัวกับสโมสรในนัดเปิดสนามของฤดูกาล 2015–16 ที่เปิดบ้านชนะเหนือฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 2–0[8] เฮย์เดนประเดิมประตูแรกในอาชีพเมื่อเขายิงประตูสุดท้ายให้ฮัลล์ในเกมที่เอาชนะชาร์ลตันแอธเลติก 6–0 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2016[9]

นิวคาสเซิลยูไนเต็ด

[แก้]

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2016 เฮย์เดนตัดสินใจย้ายจากอาร์เซนอลไปร่วมสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ดด้วยสัญญา 5 ปี[10] เฮย์เดนทำประตูเปิดตัวให้กับสโมสรใหม่ในการชนะ 4–1 เหนือเรดิง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2016[11] เฮย์เดนคว้าแชมป์อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2016–17 กับนิวคาสเซิลในเดือนพฤษภาคม 2017[12]

หลังจากเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก เฮย์เดนก็รักษาตำแหน่งตัวจริงของเขาไว้ได้ภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซ ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ หลังจากที่เบนิเตซออกจากสโมสรในปี 2019 สตีฟ บรูซซึ่งเข้ามาคุมทีมต่อจากเบนิเตซยังคงให้เฮย์เดนเล่นในตำแหน่งกองกลางและแบ็คขวาเฮย์เดนทำประตูชัยในช่วงกลางฤดูกาล 2020 ที่ชนะ��ชลซี 1–0 ด้วยการโหม่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ[13]

หลังจากได้รับบาดเจ็บมายาวนานในเดือนธันวาคม 2021 ในยุคของเอ็ดดี ฮาว เฮย์เดนไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของนิวคาสเซิลยูไนเต็ดจำนวน 25 คนในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2021–22[14][15]

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2022 เฮย์เดนถูกปรับ 19,000 ปอนด์โดยสมาคมฟุตบอลหลังจากวิพากษ์วิจารณ์บนทวิตเตอร์ เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเดวิด คูต ผู้ตัดสิน หลังจากนิวคาสเซิลพ่ายแพ้ต่อเชลซี 0–1 ในเกมเยือน[16]

นอริชซิตี (ยืม)

[แก้]

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2022 เฮย์เดนย้ายไปร่วมทีมนอริชซิตีในแชมเปียนชิปโดยยืมตัวตลอดฤดูกาล[17] เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2023 ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล เอ็ดดี้ ฮาว ซึ่งเข้ามาคุมทีมแทนบรูซกล่าวว่าเฮย์เดนไม่มีอนาคตที่สโมสรและจะถูกขายออกไป[18]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Premier League clubs publish 2019/20 retained lists". Premier League. 26 June 2020. สืบค้นเมื่อ 10 July 2020.
  2. "Player Profile Isaac Hayden". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2014.
  3. 3.0 3.1 "Newcastle new boy Isaac Hayden heads back to his roots". Echo-News.co.uk. 26 July 2016. สืบค้นเมื่อ 16 April 2017.
  4. 4.0 4.1 "Hayden grateful to shrimpers". NUFC.co.uk. 26 July 2016. สืบค้นเมื่อ 16 April 2017.
  5. "West Brom 1–1 Arsenal". BBC Sport. 25 September 2014. สืบค้นเมื่อ 24 September 2014.
  6. "Arsenal 1–2 Southampton". BBC Sport. 23 September 2014. สืบค้นเมื่อ 24 September 2014.
  7. "Hayden Arrives On Loan". Hull City AFC. 31 July 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 July 2015. สืบค้นเมื่อ 31 July 2015.
  8. "Hull 2–0 Huddersfield". BBC Sport. BBC. 8 August 2015. สืบค้นเมื่อ 8 August 2015.
  9. "Hull 6–0 Charlton". BBC Sport. BBC. 16 January 2016. สืบค้นเมื่อ 16 January 2016.
  10. "United Complete Hayden Signing". Newcastle United F.C. 11 July 2016. สืบค้นเมื่อ 11 July 2016.
  11. "Newcastle 4–1 Reading". BBC Sport. 16 August 2016. สืบค้นเมื่อ 22 August 2016.
  12. "Newcastle's Isaac Hayden on why he always believed there'd be a Championship title-race 'twist'". Chronicle Live.co.uk. 12 May 2017.
  13. Park, Louise Taylor at St James' (18 January 2020). "Isaac Hayden breaks Chelsea hearts with late winner for Newcastle". The Observer. ISSN 0029-7712. สืบค้นเมื่อ 18 January 2020.
  14. Starforth, Miles (30 December 2021). "Newcastle United rocked by new injury blow as Isaac Hayden undergoes surgery". Shields Gazette. สืบค้นเมื่อ 16 March 2022.
  15. "United name 25-man squad for second half of the season". www.nufc.co.uk. 3 February 2022. สืบค้นเมื่อ 16 March 2022.
  16. "Newcastle star Isaac Hayden facing FA sanction after incredible referee rant". Teamtalk.com. 14 March 2022. สืบค้นเมื่อ 14 March 2022.
  17. Southwell, Connor (7 June 2022). "Isaac Hayden signs for Norwich City". Norwich Evening News. สืบค้นเมื่อ 7 June 2022.
  18. Stokes, Aaron (26 May 2023). "Howe confirms Hayden and Hendrick plans as duo return to Newcastle". ChronicleLive. สืบค้นเมื่อ 7 June 2023.