แซม อัลลาร์ไดซ์
แซม อัลลาร์ไดซ์ (/ˈælərdaɪs/; อังกฤษ: Sam Allardyce; เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1954) " เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ ล่าสุดทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ลีดส์ยูไนเต็ด ในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม |
ซามูเอล แซม อัลลาร์ไดซ์ (Samuel Allardyce)[1] | ||
วันเกิด | [1] | 19 ตุลาคม ค.ศ. 1954||
สถานที่เกิด | ดัดลีย์, อังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 6 ft 3 in (1.91 m)[2] | ||
ตำแหน่ง | กองหลัง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1968–1969 | ดัดลีย์ทาวน์ | ||
1969–1971 | โบลตันวอนเดอเรอส์ | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1973–1980 | โบลตันวอนเดอเรอส์ | 184 | (21) |
1980–1981 | ซันเดอร์แลนด์ | 25 | (2) |
1981–1983 | มิลล์วอลล์ | 63 | (2) |
1983 | เทมบาเบย์โรว์ดีส์ | 11 | (1) |
1983–1984 | คอเวนทรีซิตี | 28 | (1) |
1984–1985 | ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ | 37 | (0) |
1985–1986 | โบลตันวอนเดอเรอส์ | 14 | (0) |
1986–1989 | เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ | 90 | (2) |
1989–1991 | เวสต์บรอมวิชอัลเบียน | 1 | (0) |
1991–1992 | ลิเมริก | 23 | (3) |
1992 | เพรสตันนอร์ทเอนด์ | 3 | (0) |
รวม | 442 | (32) | |
จัดการทีม | |||
1991–1992 | ลิเมริก (ผู้เล่น-ผู้จัดการทีม) | ||
1992 | เพรสตันนอร์ทเอนด์ (ผู้จัดการทีมชั่วคราว) | ||
1994–1996 | แบล็กพูล | ||
1997–1999 | นอตส์เคาน์ตี | ||
1999–2007 | โบลตันวอนเดอเรอส์ | ||
2007–2008 | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | ||
2008–2010 | แบล็กเบิร์นโรเวอส์ | ||
2011–2015 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | ||
2015–2016 | ซันเดอร์แลนด์ | ||
2016 | อังกฤษ | ||
2016–2017 | คริสตัลพาเลซ | ||
2017–2018 | เอฟเวอร์ตัน | ||
2020–2021 | เวสต์บรอมวิชอัลเบียน | ||
2023 | ลีดส์ยูไนเต็ด | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
ประวัติ
���ก้อัลลาร์ไดซ์ มีชื่อจริงว่า ซามูเอล อัลลาร์ไดซ์ (Samuel Allardyce) เกิดและเติบโตมาในเมืองดัลลีย์ ในครอบครัวชาวอังกฤษเชื้อสายสกอต โดยมีพ่อ คือ โรเบิร์ต อัลลาร์ไดซ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแม่คือ แมรี่ แอกเนส อัลลาร์ไดซ์ ทั้งคู่เป็นชาวสกอตโดยกำเนิด
ในช่วงการเป็นนักฟุตบอล อัลลาร์ไดซ์ลงเล่นมากกว่า 400 นัดให้กับ 11 สโมสร โดยเล่นในตำแหน่งกลองหลัง และหลังจากการเลิกเล่นฟุตบอลของเขา อัลลาร์ไดซ์ได้มาเป็นผู้จัดการทีมทีมแรกให้กับลิเมริกค์ สโมสรฟุตบอลของลีกไอร์แลนด์ และสามารถนำพาลิเมริกค์คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่งไอร์แลนด์ได้ในฤดูกาล 1991–92 ซึ่งในสื่อข่าวมวลชนทั่วไปตั้งฉายาให้เขาว่า "บิ๊กแซม" และผลงานล่าสุดของเขาคือการนำเวสต์แฮมยูไนเต็ด เลื่อนชั้นจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก ได้ด้วยการชนะต่อเด้ดพูล ในรอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ
อีกทั้งยังเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่เป็นผู้จัดการของทั้งซันเดอร์แลนด์ และนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ซึ่งทั้งสองสโมสรเป็นเสมือนคู่ปรับกันในฐานะที่เป็นสโมสรประจำเมืองของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ และยังเคยเป็นผู้จัดการทีมของทั้งโบลตันวอนเดอเรอส์และแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ซึ่งเป็นคู่ปรับกันประจำมณฑลแลงคาเชียร์ด้วย
ชีวิตส่วนตัวของอัลลาร์ไดซ์ มีลูกชายคือ เจ็ก อัลลาร์ไดซ์ ที่เคยเป็นนักฟุตบอลเช่นเดียวกัน โดยเคยเป็นผู้เล่นของแบล็กพูลขณะที่อัลลาร์ไดซ์ผู้พ่อเป็นผู้จัดการอยู่ แต่ทว่ากลับได้เล่นในทีมชุดใหญ่แค่นัดเดียวเท่านั้น และได้เลิกเล่นฟุตบอลไปเมื่ออายุเพียง 25 ปี ปัจจุบันนี้เป็นนายหน้านักฟุตบอล นอกจากการเป็นผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมฟุตบอลแล้ว แซม อัลลาร์ไดซ์ยังมีอาชีพเสริมด้วยการเป็นนักธุรกิจ ประกอบกิจการหลายอย่าง เช่น ซื้อและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ขายอะไหล่รถยนต์จนถึงกิจการภัตตาคารระดับหรูหรา มีกิจกรรมที่ชื่นชอบคือ การเต้น โดยเคยเต้นในเพลงกังนัมสไตล์ของไซ นักร้องชาวเกาหลีใต้ ร่วมกับเจมี เรดแนปป์ ออกรายการเกมโชว์ที่ได้รับความนิยมของอังกฤษ รวมถึงเต้นในเพลงของรีแอนนาเฉลิมฉลองในวาระที่ซันเดอร์แลนด์รอดพ้นการตกชั้นหลังจบฤดูกาล 2015–16[3]
ข้อกล่าวหาการทุจริต
แก้การตรวจสอบโดยเดลีเทลิกราฟ ปี ค.ศ. 2016
แก้ในปลายเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 นักข่าวจากเดลีเทลิกราฟได้ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจตะวันออกกลางเพื่อบันทึกภาพการสนทนากับอัลลาร์ไดซ์ โดยให้คำแนะนำถึงวิธีหลีกเลี่ยงกฎของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ว่าด้วยการการถือสิทธิ์โดยบุคคลที่สาม และมีการเจรจาต่อรองเป็นจำนวน 400,000 ปอนด์[4] ในภายหลัง อัลลาร์ไดซ์จึงได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ หลังจากคุมทีมได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น คือ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่อังกฤษเอาชนะสโลวาเกียได้ 1–0 เมื่อต้นเดือนเดียวกัน และเป็นแกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เข้ามารักษาการแทน รวมระยะเวลาที่เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเพียงแค่ 67 วัน[5]
เกียรติประวัติ
แก้นักฟุตบอล
แก้- ฟุตบอลลีกเซคกันด์ดิวิชั่น: ชนะเลิศ (1977/78)
ผู้จัดการทีม
แก้- ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่งไอร์แลนด์: ชนะเลิศ (1991/92)
- ฟุตบอลลีกเติร์ดดิวิชั่น: ชนะเลิศ (1997/98)
- ฟุตบอลลีกเฟิร์สดิวิชั่น รอบเพลย์ออฟ: ชนะเลิศ (2000/01)
- ลีกคัพ: รองชนะเลิศ (2003/04)
- ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป รอบเพลย์ออฟ: ชนะเลิศ (2011/12)
รางวัลอื่น ๆ
แก้- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือน: (สิงหาคม 2001,[6] พฤศจิกายน 2003,[7] มกราคม 2004,[8] ธันวาคม 2006[9])
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Sam Allardyce". Barry Hugman's Footballers. สืบค้นเมื่อ 28 May 2016.
- ↑ "Sam Allardyce: If I don't buy at least two players then I fear all our good work will be wasted". London Evening Standard. 14 December 2012. สืบค้นเมื่อ 30 December 2014.
- ↑ หน้า 20 กีฬา, 10 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ของ'บิ๊กแซม' โดย แท ยอน. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,393: วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แรม 7 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก
- ↑ "Sam Allardyce: England manager allegations investigated by FA". BBC Sport. 27 September 2016. สืบค้นเมื่อ 27 September 2016.
- ↑ "Sam Allardyce: England manager leaves after one match in charge". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2016-09-27. สืบค้นเมื่อ 2016-09-27.
- ↑ "Bolton draw confidence from living with big boys". Sunday Herald. 9 September 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-05. สืบค้นเมื่อ 2012-10-16.
- ↑ http://allafrica.com/stories/200312090445.html
- ↑ "Allardyce and Henry win awards". BBC News. 6 February 2004.
- ↑ "Allardyce is manager of the month". BBC News. 11 January 2007.