ธนา เมตตาริกานนท์
ธนา เมตตาริกานนท์ (เกิด 4 กันยายน พ.ศ. 2489) อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี 3 สมัย
ธนา เมตตาริกานนท์ | |
---|---|
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง | |
ดำรงตำแหน่ง 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 4 กันยายน พ.ศ. 2489 อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี |
คู่สมรส | เก็จแก้ว เมตตาริกานนท์ |
ประวัติ
แก้ธนา เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2489[1] สำเร็จการศึกษา ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ จาก วิทยาลัยช่างกลพระนครเหนือ (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ ในปัจจุบัน) สมรสกับ นางเก็จแก้ว เมตตาริกานนท์ และมีหลานชาย คือ พงศกร เมตตาริกานนท์ นักแสดงช่อง 3
งานการเมือง
แก้ธนา เข้าสู่วงการการเมือง ด้วยการเป็นสมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี 2 สมัย คือ พ.ศ. 2518 และ พ.ศ. 2523 ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรครั้งแรกใน พ.ศ. 2526 สังกัดพรรคกิจสังคม และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 3 ครั้ง
ธนา ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 16 เมื่อ พ.ศ. 2531
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แก้ธนา เมตตาริกานนท์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 3 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดพรรคกิจสังคม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดพรรคกิจสังคม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2531 จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดพรรคกิจสังคม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[2]
- พ.ศ. 2532 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ ทำเนียบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2532. สำนักงานเลขารัฐสภา. 2532
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-11-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๗ ตอนที่ ๒๔๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-04-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๒๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๒