ความเชื่อ
บทความนี้���าจต้องปรับปรุงให้มีมุมมองที่เป็นกลาง เนื่องจากนำเสนอมุมมองเพียงด้านเดียว ดูหน้าอภิปรายประกอบ โปรดอย่านำป้ายออกจนกว่าจะมีข้อสรุป |
ความเชื่อ (อังกฤษ: belief) หมายถึง การยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นความจริง หรือมีการดำรงอยู่จริง โดยอาศัยประสบการณ์ตรง การไตร่ตรอง หรือการอนุมาน[1]
ความเชื่อในศาสนา
แก้ศาสนาพุทธ
แก้ศาสนาคริสต์
แก้คริสตชนถือว่า "ความเชื่อในพระเยซูคริสต์" เป็นเงื่อนไขเดียวที่พระเจ้าทรงเรียกร้องสำหรับความรอด[2] ความเชื่อไม่ใช่การกล่าวยอมรับพระคริสต์เท่านั้น แต่เป็นกิจซึ่งแสดงออกจากจิตใจของผู้ที่เชื่อที่แสวงหาการติดตามของพระคริสต์ในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ด้วย
ความหมายของความเชื่อมีปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ ในจดหมายถึงชาวฮีบรู ซึ่งไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ เป็นที่เข้าใจว่าผู้เขียนต้องการเขียนถึงชาวฮีบรูหรือชาวยิวที่กลับใจมาเป็นคริสตชน ในบทที่ 11 ผู้เขียนได้อธิบายความเชื่อของคริสตชนโดยเริ่มตั้งแต่การที่พระเจ้าทรงสร้างจักรวาล ความเชื่อของชาวยิวในยุคสมัยต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในพระคัมภีร์ ความเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า และความเชื่อในพระเยซูคริสต์ว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า โดยสรุปความหมายของความเชื่อไว้ว่า "ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น"[3]
แนวคิดเรื่องความเชื่อในพันธสัญญาใหม่ มีองค์ประกอบ 4 อย่าง ดังต่อไปนี้
- เป็นการเชื่อสุดใจ การยอมมอบเจตจำนง และการอุทิศถวายตนเองทั้งหมดแด่พระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งพันธสัญญาใหม่เปิดเผยไว้
- มีการกลับใจใหม่ คือการหันจากบาป ด้วยความสำนึกเสียใจอย่างแท้จริง และหันเข้าหาพระเจ้าโดยทางพระคริสต์
- เชื���อฟังพระเยซูคริสต์และพระวจนะของพระองค์
- แสดงออกโดย��วามไว้วางใจความรัก โดยความซาบซึ้ง และความจงรักภักดี ต่อพระคริสต์
ศาสนาอิสลาม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมศัพท์ปรัชญา ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2548. 200 หน้า. หน้า 12-13. ISBN 974-9588-28-2
- ↑ โรม บทที่ 5 หน้า 2118, ความเชื่อและพระคุณ, ความเชื่อที่นำไปสู่ความรอด, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับอธิบาย "ชีวิตครบบริบูรณ์" 2008
- ↑ จดหมายถึงชาวฮีบรู 11:1, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011